ส่งไอโฟน ผ่านขนส่งดัง ถึงปลายทางกลายเป็น มะม่วง เจอพนักงานแกะขายกระจาย

ส่งไอโฟน ผ่านขนส่งดัง ถึงปลายทางกลายเป็น มะม่วง เจอพนักงานแกะขายกระจาย

วันที่ 4 มิ.ย. น.ส.พิมพ์ณิภา สงวนรัตน์ อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 141 หมู่ 1 ต.บ่อกระดาน อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี แม่ค้าขายอาหารตามสั่ง ผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.พงษ์ศิริ อำไพรพิศ รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางระกำ จ.พิษณุโลก หลังจากก่อนหน้านี้ ได้ฝากญาติส่งโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน 6 จำนวน 8 เครื่อง ที่ อ.ขาณุวรลักษณ์ จ.กำแพงเพชร ส่งไปให้ น.ส.พิมพ์ณิภา ที่ อ.ปากท่อ เมื่อพัสดุส่งไปถึงบ้าน เปิดออกดูกลับได้มะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง 1 ลูกแทนโทรศัพท์ที่หายไป คาดว่าจะถูกขโมยไประหว่างขนส่ง

หลังจากนั้น จึงได้โพสต์เรื่องราวลงสื่อโซเชียลร้องเรียนว่า "ต้นเรื่อง จ.ราชบุรี ค่ะ // Flash Express ว่าไงผู้ใช้บริการ ร้องว่าโทรศัพท์ถูกขโมย iphone จำนวน 8 เครื่อง ตรวจไอคราวพบว่าเครื่องถูกเปิดใกล้พื้นที่คัดแยกพัสดุภาคกลาง เรื่องแบบนี้มันไม่สมควรเกิดขึ้นเลย หายเห็นๆ เจอพิกัดเห็นๆ แต่ไร้ซึ่งความรับผิดชอบ *คลิปอธิบายในเม้นต์ เจ้คิมช่วยหน่อยนะครับ ญาติส่งไอโฟน 6 มาให้ 8 เครื่องพร้อมสายชาร์จจากกำแพงเพชร แต่วันนี้ของมาส่งที่ราชบุรี เปิดดูกลายเป็นมะม่วง 1 ลูก ตอนนี้ยังติดต่อบริษัทเดอะแฟลชไม่ได้เลย เป็นอุทาหรณ์เลยครับ ทางสำนักงานใหญ่ปัดความรับผิดชอบแล้วครับ อ้างว่าเป็นสินค้ามือสอง ไม่อยู่ในเงื่อนไขรับเคลม และร้านที่ไปส่งไม่ใช่ตัวแทนบริษัทโดยตรง

ส่วนทางร้านยืนยันว่า ส่งน้ำหนักตอนส่ง 1.4 กรัม แต่มาถึงปลายทางน้ำหนักเหลือไม่ถึงครึ่งกิโล ทางร้านเชื่อว่าของถูกแกะออกจากทางเดอะแฟลชแน่นอน ตอนนี้หาคนรับผิดชอบไม่ได้เลยครับ น้ำหนักที่ระบุข้างกล่องตอนส่งปลายทาง ก็ระบุว่าหนัก 1.4 กรัม แต่มาถึงปลายทางน้ำหนักหายไป 1 กิโลแบบนี้ ทางเดอะแฟลชจะปัดความรับผิดชอบเลยเหรอครับ **ข้อมูลเพิ่มเติมครับ ผมให้ทาง iPhone ตรวจสอบพิกัด ไอคราวแล้วปรากฏว่ามีสองเครื่องปรากฏอยู่ที่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นที่ตั้งศูนย์คัดแยกพัสดุภาคกลางตอนล่างของเดอะแฟลชครับ **มันเริ่มทยอยเปิดเครื่องแล้วครับ พิกัดอยู่ใกล้กับเครื่องแรกเลย เจออยู่ที่ อ.เมือง พิษณุโลก อีก 1 เครื่องแล้วครับ โผล่อีกเครื่องแล้วครับ ตอนนี้ตรวจสอบพิกัดได้ 5 เครื่องแล้วครับ อ.เมือง 2 อ. บางระกำ 3 (ที่ตั้งศูนย์คัดแยกพัสดุ)"

ทั้งนี้ น.ส.พิมพ์ณิภา สงวนรัตน์ ยืนยันว่า จากการตรวจไอคราวพบสัญญาณโทรศัพท์ที่หายไปและเปิดเครื่องไว้ อยู่ใกล้กับวัดยางแขวนอู่ หมู่ 6 ต.บางระกำ อ.บางระกำ จำนวน 3 เครื่อง ส่วนอีก 2 เครื่องอยู่พื้นที่ใกล้กับวัดจุฬามณี ต.ท่าทอง อ.เมืองพิษณุโลก พ.ต.อ.เจษฎา ท่าโพธิ์ ผกก.สภ. บางระกำ จึงสั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกับผู้เสียหาย

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนไปถึงที่วัดยางแขวนอู่ ได้ร่วมกับผู้เสียหายเดินตรวจสอบสัญญาณที่ตรวจจับภายในวัดและบริเวณด้านหลังวัด กระทั่งถึงบ้านเลขที่ 48/1 หมู่ 6 ต.บางระกำ อยู่ห่างจากหลังวัดประมาณ 10 เมตร พบว่าสัญญาณโทรศัพท์อยู่ภายในรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีดำ ทะเบียน ผก 7161 พิษณุโลก จอดอยู่ในเพิงข้างบ้าน จึงได้โทรศัพท์เข้าเครื่องที่หายไป ปรากฏว่ามีเสียงดังขึ้นทันที เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวและเรียก นายพรเทพ บุญช่วย อายุ 26 ปี ที่อยู่บนบ้านลงมาเปิดรถยนต์เพื่อขอตรวจสอบ ปรากฏว่าพบโทรศัพท์ไอโฟนวางอยู่บริเวณเบาะนั่งผู้โดยสารในแคปด้านหลังคนขับจำนวน 5 เครื่อง ที่ยังส่งเสียงสัญญาณดังอยู่ พร้อมกับสายชาร์จโทรศัพท์

ชุดสืบสวนจึงได้สอบสวนปากคำนายพรเทพเบื้องต้น ยอมรับว่าเป็นพนักงานคัดแยกสิ่งของ อยู่บริษัทขนส่งสินค้าดังกล่าวจริง ในตำแหน่งลูกจ้างประจำ และเป็นผู้ขโมยโทรศัพท์มาทั้งหมด 8 เครื่อง แต่นำไปขายต่อให้เพื่อนที่รู้จักกันชื่อนายเอก ซึ่งอยู่บริเวณหอพักย่านวัดจุฬามณี ต.ท่าทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก จำนวน 3 เครื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามไปจับกุมตัวนายเอก หรือ นายธวัชชัย โชคสุริยะสกุล ไสอบสวนที่โรงพัก

นายเอก ยอมรับว่าได้ส่งโทรศัพท์ไอโฟนขายต่อให้ลูกค้า จ.ระยอง ในราคาเครื่องละ 500 บาท แต่ไม่ทราบว่าเป็นเครื่องที่ถูกขโมยมา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ อยู่ระหว่างสอบสวนและยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด

ส่วนนายพรเทพ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ขณะกำลังเรียงกล่องพัสดุอยู่และเห็นกล่องพัสดุแตก 1 กล่อง ซึ่งกล่องที่แตกเห็นโทรศัพท์ไอโฟนอยู่ในกล่องด้วย จึงได้เกิดความโลภ อยากได้ และเปิดกล่องลักโทรศัพท์ไปจำนวน 8 เครื่อง ขณะนั้น เห็นมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองตกอยู่ในรถยนต์ขนสินค้า จึงนำมะม่วงผลดังกล่าวยัดเข้าไปในกล่องแทน จากนั้นได้นำไอโฟน 3 เครื่อง มาขายให้นายเอกในราคาเครื่องละ 500 บาท

ด้าน น.ส.พิมพ์ณิภา สงวนรัตน์ ผู้เสียหาย กล่าวว่า วันนี้รู้สึกดีใจที่สามารถติดตามเอาโทรศัพท์มือถือกลับคืนมาได้  5 เครื่อง หลังพยายามค้นหาจากแอพติดตามมือถือหาย จนกระทั่งทราบว่า พัสดุถูกแกะและสับเปลี่ยนที่จุดคัดแยกสินค้าใน อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ตอนเกิดเรื่องก็ได้แจ้งบริษัทขนส่งพัสดุสินค้าแล้ว แต่กลับไม่ได้รับความช่วยเหลือเท่าที่ควร และปัดความรับผิดชอบ เพราะเป็นโทรศัพท์มือสองบริษัทจะไม่รับผิดชอบ เสียความรู้สึกมากๆ ต้องตามสืบเองจากสัญญาณมือถือ จนสามารถรู้ตัวผู้ที่ขโมยไปซึ่งเป็นพนักงานของบริษัทเอง กระทั่งวันนี้ตัวแทนของบริษัทได้ติดต่อเข้ามาพูดคุยและขอโทษที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น โดยจะไกล่เกลี่ยพูดคุยเพื่อเยียวยาช่วยเหลือ นอกจากนี้ ภรรยาของนายพรเทพ ผู้ต้องหาได้ตกลงยินยอมชดใช้ค่าโทรศัพท์จำนวน 3 เครื่องที่นายพรเทพไปขายต่อให้กับนายเอกด้วย ส่วนตัวนายพรเทพนั้น คงต้องให้ตำรวจดำเนินคดีไปตามกฎหมายต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.เจษฎา ท่าโพธิ์ ผกก.สภ.บางระกำ กล่าวว่า คดีนี้เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีกับนายพรเทพ ผู้ต้องหา ในข้อหาลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง หรืออยู่ในความครอบครองของนายจ้าง ส่วนนายธวัชชัย หรือ เอก กำลังสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีหรือไม่

ขณะที่ น.ส.พิมพ์ณิภา สงวนรัตน์ อายุ 44 ปี แม่ค้าขายอาหารตามสั่งที่ จ.ราชบุรี ผู้เสียบหายงได้นำมะม่วงน้ำดอกไม้ที่เปิดเจอในกล่องพัสดุมาคืนให้กับนายพรเทพ ผู้ต้องหาด้วย ซึ่งผู้ต้องหาอ้างว่ากระทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ เพราะเกิดความโลภ

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ