เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 6 มิ.ย.2564 ที่หน้าบ้านพักลุงพล หมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล เปิดเผยว่า ตนไม่เคยเห็นเครื่องมือทางนิติวิทยาศาสตร์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำมาใช้กับคดีของน้อง ช ม พู่ โดยพยานหลักฐานต่างๆเป็นเรื่องของการสอบสวนรวบรวมไว้ในสำนวนคดี ในส่วนของตนก็แล้วแต่ทางนายษิทธา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม จะเป็นผู้กำหนดแนวทางในการต่อสู้คดี อย่างไรตนก็จะดำเนินการไปตามนั้น

ส่วนการจะเดินทางไปพบนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ที่สภาผู้แทนราษฎร ในวันอังคารที่ 10 มิ.ย.2564 หรือไม่นั้น ขณะนี้ยังตอบไม่ได้ว่าจะเดินทางเข้ากทม.หรือเปล่า เนื่องจากทนายตั้มยังไม่ได้ติดต่อมา

โดยยังรอทนายตั้มติดต่อมาก่อนว่าจะให้ทำอย่างไร สำหรับการไปรายงานตัวต่อนายลิขิต ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.กกตูม เมื่อถึงกำหนดเวลาก็จะเดินทางไปรายงานตัวตามที่ศาลกำหนดไว้ สามารถดำเนินการได้โดยไม่ปัญหาหรือข้อขัดข้องอะไร

ด้านนายสมเกียรติ โรจนวรกมล ทนายความอีกคนของลุงพลในคดีบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ได้เดินทางมาร่วมพิธีผูกแขนบายศรีสู่ขวัญลุงพล และครอบครัวที่บ้านกกกอก พร้อมเปิดเผยว่า วันนี้ตั้งใจมาเยี่ยมและให้กำลังใจลุงพล พร้อมทั้งมีข้อแนะนำในเรื่องให้ลุงพลระมัดระวังตัว ไม่ให้มีผู้ใดมาแสวงหาโอกาสสร้างพยานหลักฐานเพื่อนำไปสู่การขอให้เพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวลุงพล

นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า จะต้องพูดคุยให้คำปรึกษากับลุงพลก่อน โดยอาจจะต้องเดินทางไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรกกตูมลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่าไม่ได้กระทำการใดๆอันเป็นการผิดเงื่อนไขตามที่ศาลกำหนดก็ได้

นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล กล่าวอีกว่า ในส่วนของคดีน้องชมพู่ ก่อนจะดำเนินการใดๆ ก็ต้องฟังตามที่นายทนายตั้มแนะนำ แต่ขณะนี้ทนายตั้มยังไม่ได้ติดต่อมาว่าจะให้ทำอย่างไรจึงต้องรอดูไปก่อน ซึ่งหากตนทำผิดด้านพยานหลักฐานก็จะถูกเพิกถอนสิทธิการประกันตัว ส่วนที่จะไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานนั้น คิดว่าตอนนี้ยังไม่จำเป็นทำถึงขนาดนั้น เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องวิตกกังวลจนเกินเหตุ

นายไชย์พล กล่าวต่ออีกว่า ไม่เคยเห็นเครื่องตรวจสอบที่ทาง จนท.นำมาตรวจสอบคดีนี้แต่อย่างใด เชื่อว่าหลักฐานต่างๆ ขึ้นอยู่กับตำรวจ ในส่วนของข้อครรหาอาจจะมีสังคมบางกระแสที่มองลุงพลในทิศทางลบ ตนก็พูดย้ำเสมอว่าเป็นไปในมุมมองของแต่ละบุคล] เราไม่ได้ไปพาดพิงเขา คนที่เขาดูข่าวก็มีการแสดงความคิดเห็นเป็นสิทธิของเขา เราก็ไม่ได้ไปพาดพิงแต่อย่างใด