นักวิจัย พบแลมบ์ด้า อันตรายยิ่งกว่า เดลต้า

นักวิจัย พบแลมบ์ด้า อันตรายยิ่งกว่า เดลต้า

ทีมนักวิจัยจากประเทศญี่ปุ่นเผยแพร่ผลศึกษาวิจัยในเว็บไซต์เผยแพร่ผลงานวิชาการก่อนการทบทวน ไบโออาร์ซิฟ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา ระบุว่า เ ชื้ อ กลาย พั น ธุ์แลมบ์ด้า ซึ่งพบครั้งแรกในประเทศเปรู

และ ร ะ บ า ดในหลายประเทศในอเมริกาใต้ นอกจากจะแพร่ได้สูงมากแล้ว ยังมีความสามารถในการต้านทานภูมิคุ้มกัน ซึ่งเกิดจากการกระตุ้นของวัคซีนได้มากกว่า เ ชื้ อ สายพันธุ์ดั้งเดิมที่พบแพร่ ร ะ บา ดในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีนอีกด้วย

ทั้งนี้นักวิจัยญี่ปุ่นนำโดย เคอิ ซาโตะ นักวิจัยอาวุโสประจำมหาวิทยาลัยโตเกียว ใช้วิธีการวิเคราะห์ในระดับโมเลกุลเพื่อจำแนกและประเมินความสัมพันธุ์ทางพันธุกรรม ( molecular phylogenetic analysis) ของไวรัสกลายพันธุ์นี้ พบการกลายพันธุ์สำคัญ 3 จุดที่เกิดขึ้นบริเวณ ตุ่มโปรตีน

สไปค์ โปรตีนของแลมบ์ด้า คือ RSYLTPGD246-253N, 260 L452Q และ F490S ซึ่งช่วยให้แลมบ์ด้า มีความสามารถในการต่อต้านภูมิคุ้มกันในร่างกายที่เกิดจากการกระตุ้นของวัคซีน โดยเฉพาะการกลายพันธุ์

RSYLTPGD246-253N ซึ่งเป็นการกลายพันธุ์แบบสอดแทรกเข้ามาเพิ่มซึ่งเกิดขึ้นในส่วนของปลาย เอ็น (the N-terminal domain-NTD) มีส่วนสำคัญอย่างมากในการทำให้ไวรัสกลายพันธุ์นี้สามารถหลีกเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้

นอกจากนั้น แลมบ์ด้า ยังมีการกลายพันธุ์อีก 2 จุด คือ T76I กับ L452Q ที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแพร่ระบาดให้สูงขึ้นมากอีกด้วย

ทีมวิจัยเตือนเอาไว้ว่า การที่ องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) เพียงกำหนดให้แลมบ์ด้า เป็น เ ชื้ อ กลายพันธุ์ที่น่าสนใจ" (แวเรียนท์ ออฟ อินเทอเรสต์-วีโอไอ) แทนที่จะเป็น " เ ชื้ อ กลายพันธุ์ที่น่าวิตก" (แวเรียนท์ ออฟ คอนเซิร์น-ไอโอซี)

นั้น อาจทำให้คนทั่วไปไม่ตระหนักถึงความร้ายแรงของภัยคุกคามจาก เ ชื้ อ กลายพันธุ์นี้ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นอันตรายยิ่งกว่า เ ชื้ อ กลายพันธุ์เดลต้าที่ก่อให้เกิดความหวาดผวาอยู่ในหลายประเทศในเวลานี้

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ