เงินเข้าวันไหนเช็กเลย วันเงินเข้า บัตรคนจน เตรียมรับเงิน 1,000

เงินเข้าวันไหนเช็กเลย วันเงินเข้า บัตรคนจน เตรียมรับเงิน 1,000

จากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบและอนุมัติการเพิ่มวงเงินสนับสนุนมาตรการลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบ โดยโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน

ระยะที่ 3 ได้เพิ่มวงเงินค่าซื้อสินค้า จากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการจากร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 เพิ่มเติมอีก จำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2564

ทั้งนี้ เดือนธันวาคม ซึ่งถือเป็นเดือนสุดท้ายของ ปี 2564 ทางกรมบัญชีกลาง สังกัดกระทรวงการคลัง ได้โอนเงินให้ผู้ถือบัตรจำนวน 13.5 ล้านราย เป็นประจำทุกเดือนตามไทม์ไลน์ที่ได้กำหนดไว้

สำหรับรายละเอียดไทม์ไลน์โอนเงินเดือนธันวาคม 2564 มีดังนี้

วันที่ 1 ธ.ค. 2564 (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)

วงเงินซื้อสินค้า 700 และ 800 บาทต่อเดือน โดยเป็นวงเงินเดิม 200 และ 300 บาท และวงเงินจากโครงการเพิ่มกำลังซื้อ 500 บาท

ส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 45 บาทต่อ 3 เดือน

ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประกอบด้วย

ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน

ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน

ค่าโดยสารรถไฟฟ้า ขสมก./ MRT/ BTS และ ARL 500 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่อาศัยอยู่ในเขต กทม. และปริมณฑล)

วันที่ 18 ธ.ค. 2564 (สามารถกดเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)

เงินคืนค่าไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรฯ ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน)

เงินคืนค่าน้ำประปา 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน สำหรับผู้ถือบัตรฯ ที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินคืนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาท ส่วนที่เกินจาก 100 บาท ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นผู้ชำระเอง ส่วนเกินที่ประชาชนจ่ายมาจะได้รับเงินคืนทุกวันที่ 10 ของเดือนเท่านั้น สามารถกดเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้

วันที่ 22 ธ.ค. 2564 (สามารถกดเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)

โอนเงินเบี้ยความคนที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ รับเงิน 1,000 บาท เพิ่มเงินเบี้ยคนที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จำนวน 200 บาท ถึงเดือนกันยายน 2565 จากจำนวน 800 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นจำนวน 1,000 บาทต่อคนต่อเดือน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ