คุณปู่ อาศัยอยู่ในป่า มา 30 ปี

คุณปู่ อาศัยอยู่ในป่า มา 30 ปี

ความลับถูกเปิดเผย เนื่องในวันคริสต์มาสเมื่อปี 2564 ที่ผ่านมา เมื่อเจ้าหน้าที่หยุดตรวจนายโอห์ และพบว่านายโอห์ค้าขายโดยไม่มีใบอนุญาต นายโอห์ขายผักกินใบและพริกที่ปลูกเอง หลังจากสถานการณ์ CV - 19 ทำให้ตกงาน จากเดิมที่ขายดอกไม้ในตลาดหลายแห่ง ตนเองเชื่อว่ามีลูกค้าไม่พอใจ จึงไปแจ้งเจ้าหน้าที่ หลังไม่เห็นด้วยที่ตนขายของราคา 1 ดอลล่าร์สิงคโปร์หรือราว 23 บาท แต่ในจังหวะนั้น เจ้าหน้าที่การกุศลผ่านมาและสังเกตว่า นายโอห์กำลังถูกเจ้าหน้าที่หลายคนสอบถามรวมถึงยึดผักของนายโอห์ด้วย

น.ส.วิเวียน ปัน เจ้าหน้าที่การกุศลกล่าวว่า ตนรู้สึกไม่ดีแทนนายโอห์ ฉันไม่ต้องการให้นายโอห์ต้องกลับบ้านมือเปล่า แต่ก็เข้าใจ ในแง่ของกฎหมายสิงคโปร์ ไม่สามารถขายสินค้าบนถนนได้

น.ส.วิเวียนถ่ายคลิปเรื่องราวที่เกิดขึ้นและโพสต์บนโซเชียลมีเดีย ซึ่งกลายเป็นไวรัลอย่างรวดเร็ว และในที่สุด กรณีนายโอห์ทำให้นายเหลียง อิง หัว สมาชิกรัฐสภาท้องถิ่นสนใจ จนพบเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับนายโอห์ เมื่อรู้ว่านายโอห์อาศัยอยู่ในป่าเป็นเวลา 30 ปีโดยไม่มีใครรู้

นายโอห์เติบโตมากับครอบครัวในย่านซัมไจ เตนกะห์ อย่างไรก็ตาม ในทศวรรษ 1980 หมู่บ้านเหล่านี้ต้องหลบทางไป เพื่อสร้างตึกสูง ชาวบ้านส่วนใหญ่ได้รับข้อเสนอบ้านหลังใหม่จากรัฐบาล แต่นายโอห์ไม่สามารถมีบ้านของตนเองได้ แม้น้องชายได้อยู่แฟลตของรัฐบาลและได้เชิญนายโอห์ไปอยู่ด้วยกัน แต่ในที่สุดนายโอห์ย้ายออก แล้วกลับไปอยู่ป่าติดกับบริเวณบ้านหลังเก่าที่เคยตั้งอยู่และเริ่มใช้เวลาช่วงกลางคืนในเพิงที่สร้างจากไม้ ไม้ไผ่และผ้าใบกันน้ำ

บริเวณทางเข้าเพิง จะเห็นถ่านบริเวณประตูเกิดจากไฟที่นายโอห์ใช้หุงหาอาหาร กองสิ่งของอยู่ตรงกลางเพิง ด้านหลังของเต็นท์ใช้เป็นที่หลับนอน สวนอยู่ใกล้เต็นท์ นายโอห์ปลูกพืชไว้กินเอง เสื้อผ้าตากเป็นแนวระหว่างต้นไม้และรั้วที่สร้างขึ้นมาล้อมรอบแปลงผัก

ต้นขนุนสูงเหนือเต็นท์ ให้ร่มเงา ทำให้นายโอห์ไม่เคยรู้สึกไม่สบาย แม้ว่าสิงคโปร์มีอากาศร้อนและความชื้น อีกทั้งความเหงาก็ไม่เคยเป็นปัญหาสำหรับนายโอห์เช่นกัน นายโอห์อยู่กับการทำสวน แต่นายโอห์ระบุว่า หนู คือส่วนที่แย่ที่สุดของการอยู่ป่า พวกหนูจะหาทางเข้ามาในเพิง

นายโอห์ยังรับจ้างทำงานชั่วคราวหลากหลายงาน เมื่อทำไหว บางครั้งใช้จ่ายเงินที่ได้มานั่งเรือเฟอร์รี่ไปยังเกาะบาตัม เกาะเล็ก ๆ ในอินโดนีเซีย และได้พบกับ น.ส.ตาซิห์ และมีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคน อย่างไรก็ตาม หลังแวะไปที่เกาะบาตัมเป็นประจำทุกสุดสัปดาห์ นายโอห์จะกลับไปที่ป่า โดยที่ครอบครัวที่สิงคโปร์ และเกาะบาตัม ภรรยาและลูกสาว ซึ่งขณะนี้อายุ 17 ปี ต่างก็ยังไม่รู้ว่า นายโอห์ใช้ชีวิตอย่างไร นายโอห์มักตอบคำถามญาติ ๆ ว่า ผมอาศัยอยู่ในสวน

กระทั่งสถานการณ์ CV - 19 ทำให้นายโอห์ไม่สามารถไปเกาะบาตัมเพราะส่วนใหญ่สิงคโปร์ปิดพรมแดนและอนุญาตให้เดินทางสำหรับผู้ที่เต็มใจจ่ายเงินและมีการตรวจหา CV - 19 แต่นายโอห์ก็ยังส่งเงินไปช่วยครอบครัวจำนวน 500-600 ดอลล่าร์สิงคโปร์หรือราว 11,000-14,000 บาทต่อเดือน

เรื่องปัญหาคนไร้บ้าน นับว่าหาได้ยากในสิงคโปร์ ซึ่งรายได้เฉลี่ยต่อประชากรหนึ่งคนจัดว่ามีกินมีใช้มากที่สุดชาติหนึ่งในโลก รัฐบาลมีการจัดสรรบ้านให้ประชาชน โดยร้อยละ 80 ของประชากรสิงคโปร์อาศัยอยู่ในบ้านที่ได้รับเงินอุดหนุน สร้างและบริหารจัดการจากคณะกรรมการพัฒนาที่อยู่อาศัยของรัฐ แต่อย่างไรก็ตาม ประมาณว่า มีคนไร้บ้านชาวสิงคโปร์ราว 1,000 คน

ต่อมาในเดือนก.พ.ปี 2565 วันแรกของเทศกาลตรุษจีน ด้วยความช่วยเหลือของสมาชิกสภาท้องถิ่นที่รู้จักนายโอห์จากคลิป ทำให้นายโอห์ได้บ้านหลังใหม่ นายเหลียง สมาชิกสภาท้องถิ่นระบุว่า จะยังคงช่วยนายโอห์ต่อไปรวมถึง กำลังมองหาการให้ความช่วยเหลือทางสังคมระยะยาวและช่วยให้ได้ไปเยี่ยมภรรยาและลูกสาวที่อินโดนีเซียด้วย

บ้านใหม่เป็นแฟลต 1 ห้องนอนที่อยู่ร่วมกับชายอีกคน มีขนาดเล็กและถูกตกแต่งบ้าง มีของใช้ เช่น ตู้เย็น โทรทัศน์ เป็นต้น ขณะนี้นายโอห์ทำงานเป็นคนขับรถ รับส่งแรงงานต่างชาติและบางครั้งทำสวน และในวันย้ายเข้ามาอยู่บ้านใหม่นับเป็นครั้งแรกที่นายโอห์ได้ฉลองวันตรุษจีนพร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัวในสิงคโปร์ในรอบกว่า 30 ปี

ขอบคุณ BBC NEWS

เรียบเรียง siamtopic

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ