แต๊งค์ เผยสาเหตุทำไมเพื่อน แตงโม ถึงต้องการปิดข่าว

แต๊งค์ เผยสาเหตุทำไมเพื่อน แตงโม ถึงต้องการปิดข่าว

เป็นข่าวเศร้าและสะเทือนใจกับการจากไปของนักแสดงสาว "แตงโม นิดา" ที่พลัดตกเรือสปีดโบ๊ท ช่วงกลางดึกวันที่ 24 ก.พ. 65 ที่ผ่านมา บริเวณใกล้เคียงท่าเรือพิบูลสงคราม จังหวัดนนทบุรี ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับสะพานพระราม 7 และได้พบสาวแตงโม ช่วงเวลา 13.00 น. วันที่ 26 ก.พ. 65 ที่ผ่านมาตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

โดยย้อนไปในช่วงที่กำลังตามหาสาวแตงโมนั้น "แต๊งค์ พงศกร" ก็ได้ออกมาโพสต์ผ่านอินสตาแกรม โดยระบุว่า "อยากรู้ผู้ชายบนเรืออีกสองคนเป็นใคร มีอิทธิพลจากไหน "ทำไมต้องอยากปิดข่าว?" อยากให้รู้ว่าแตงโมก็มีเพื่อนอีกหลายคนที่ไม่ธรรมดาและไม่กลัวพวกคุณนะ"

ซึ่งมาจากสาเหตุที่ว่า มีการแชร์กันในโลกโซเชียลถึงคลิปที่คุณแม่ของสาวแตงโมมาสถานที่เกิดเหตุ และคุยโทรศัพท์โดยมีคำพูดที่ว่า "คุณแม่ว่ามันปิดไม่ได้หรอกนะ มันปิดข่าวไม่ได้"

ทั้งนี้ "แต๊งค์ พงศกร" ได้เปิดใจถึงเรื่องดังกล่าว โดยระบุว่า "ทั้ง 5 คน ควรให้ข้อมูลมากกว่านี้ พูดช้ามันเสียเวลาไปมาก ทั้งผิดนัดและยืดเวลาออกไป ซึ่งคำพูดที่ออกไปก็ฟังแล้วตะขิดตะขวงใจ ทำไมต้องรอทนาย อย่างเหตุการณ์อื่นๆก็พร้อมออกมาพูด โดยที่ไม่มีปัญหา"

แต๊งค์ พงศกร ยังระบุอีกว่า "ตนเองสนิทกับกระติก ผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม มานานเป็น 10 ปีแล้ว โดยมีการติดต่อไปหาตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ ซึ่งเขารับสาย แล้วบอกจะโทรกลับ เพราะยังไม่พร้อมคุย แต่ก็หายไปเลยทั้งวัน ทำให้ตนเข้าใจผิดเหมือนกับทุกคน จนกระทั่งตนเองโพสต์เมื่อคืนนี้ เขาถึงติดต่อมาหาตน แล้วก็อธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหมือนที่ทุกสื่อได้ทราบกันไปหมดแล้ว แต่พอถามว่าผู้ชายอีก 2 คน คือใคร เขาก็ยังไม่ตอบ หวังว่าหลังจากนี้ทุกคนจะออกมาพูดทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างจริงใจ ตรงไปตรงมา ให้สังคมรับได้ อีกอย่างการที่พาลูกเขาหายไป ยังไงก็ควรแจ้งครอบครัวก่อน

และเมื่อถามว่าทำไมต้องปิดข่าว เขาก็บอกมาแล้วแต่ตนเองอยากให้เขาได้เป็นคนพูดเอง แต่ตนบอกได้คร่าวๆว่าเกี่ยวกับเรื่องของกฎหมาย แล้วก็กลัวผลพวงที่จะตามมาจากเหตุการณ์นั้น เลยตัดสินใจไม่ได้ว่าจะให้การยังไง จะตอบสื่อยังไง ให้ไม่มีผลกระทบ หรือผลกระทบน้อยที่สุด

ความสนิทของแตงโมกับผู้จัดการ ทั้งคู่ตัวติดกันตลอด เป็นทั้งเพื่อนและคนที่ทำงานร่วมกัน มีปากเสียงกันประจำ แต่แป๊ปเดียวก็ดีกัน เพราะเขาดูแลกันมาตลอด ชีวิตของแตงโมบอกได้เลยว่าเขาต่อสู้ ผ่านอะไรมาเยอะ ไม่อยากให้ประสบชะตากรรมแบบนี้ สงสารเขา"

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ