เจ้าสาวตัดขาด เจ้าบ่าวชิงสินสอด แม่เจ้าสาวไม่ให้อภัย

เจ้าสาวตัดขาด เจ้าบ่าวชิงสินสอด แม่เจ้าสาวไม่ให้อภัย

จากกรณีช่างภาพรายหนึ่ง ได้โพสต์เฟซบุ๊กเล่าเหตุการณ์ ระบุว่าตนและทีมงานรวม 3 คน ได้แก่ ช่างภาพ 2 คนและออแกไนซ์ 1 คน ได้ไปทำงานในพิธีแต่งงาน ต่อมาเงินสินสอดมูลค่า 1 ล้านบาทได้หายไป และทางญาติๆ ของคู่บ่าวสาวสงสัยว่าทั้ง 3 คนเป็นผู้ขโมยเงินนั้น

ต่อมา พ.ต.อ.เอนก จันทร์สอน รองผบก.ภ.จว.กำแพงเพชร เปิดเผยหลังเรียกทุกฝ่ายมาสอบสวนว่า ล่าสุดคู่บ่าวสาวยอมรับเป็นคนเก็บเงินสินสอด 1 ล้านไปเอง ซึ่งเป็นเงินสินสอดที่ไปเช่ามา โดยที่พ่อแม่เจ้าสาวไม่รู้ หลังเสร็จงานต้องนำไปคืนผู้ให้เช่า เมื่อพ่อแม่เห็นว่าเงินหายไป จึงตกใจแจ้งตำรวจจนเกิดเป็นเรื่องขึ้น

พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า แต่หลังจากที่แม่ของเจ้าสาวแบกเงินไปเก็บในห้องนอนที่ 1 แล้วทำการล็อกกุญแจเสร็จ ด้านเจ้าบ่าวก็ใช้ช่วงเวลาตอนบ่ายที่ทุกคนกำลังชุลมุนกับงานเลี้ยงที่ชั้น 1 ขึ้นไปเอาเงินสินสอดนั้นออกมา โดยไม่ได้บอก เพื่อนำเอาไปคืนให้กับเจ้าของเงินที่ให้เช่ามา ในอัตราค่าเช่าล้านละ 4 หมื่นบาท

ทั้งนี้ ในส่วนของคดีความนั้น เบื้องต้นตำรวจได้ดำเนินคดีกับนางสาวแพรม ในข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถาน เนื่องจากให้การสารภาพและยินดีที่จะรับผิด และพ่อแม่ของเจ้าสาวก็ประสงค์ที่จะดำเนินคดีกับนางสาวแพรม เพราะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1437 เงินสินสอดเป็นการให้ตามสัญญาต่างตอบแทน และทรัพย์ที่เป็นสินสอดนั้นเมื่อเจ้าบ่าวได้ส่งมอบไปแล้ว ย่อมถือเป็นสิทธิเด็ดขาดของฝ่ายหญิงทันทีโดยไม่ต้องรอให้มีการสมรสกันก่อน ดังนั้น การที่เจ้าบ่าวแอบเอาเงินออกไป ผู้เสียหายคือพ่อแม่ของเจ้าสาว ซึ่งไม่รู้ว่าเจ้าบ่าวไปเช่าสินสอดมา

พี่ชายของฝ่ายเจ้าสาว กล่าวยืนยันว่า จากการพูดคุยกับนางสาวน้ำ น้องสาวไม่รับรู้จริง ๆ ว่า เจ้าบ่าวไปเช่าสินสอดและเป็นคนนำเงิน 1 ล้านบาทออกจากห้องไป ขณะนี้ครอบครัวเครียดและอับอายมาก ๆ จึงไม่พร้อมจะออกมาเจอสื่อมวลชน ส่วนเรื่องของคดีความก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ และนางสาวแพรม ฝ่ายเจ้าบ่าว จะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่กระทำลงไป

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ