กรมอุตุฯ ประกาศเตือน วันอังคารนี้มาแน่ พายุฤดูร้อนถล่ม ลมแรง ลูกเห็บตก

กรมอุตุฯ ประกาศเตือน วันอังคารนี้มาแน่ พายุฤดูร้อนถล่ม ลมแรง ลูกเห็บตก

วันที่ 29 กุมภาพันธ์ ถึง 2 มีนาคม 63 ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน แต่ยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้าบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับบริเวณภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนบางพื้นที่ส่วนในช่วงวันที่ 3 ถึง 6 มีนาคม 63 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นกับมีลมกระโชกแรงในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1ถึง3 องศาเซลเซียส สำหรับภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น

ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 3 ถึง 6 มีนาคม 63 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง รวมทั้งสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรงไว้ด้วย

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ถึง 2 มีนาคม 63 ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนบางพื้นที่ สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อน ทำให้ภาคใต้มีฝนน้อย ส่วนในช่วงวันที่ 3 ถึง 6 มีนาคม 63 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นอีกระลอกหนึ่งจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นกับมีลมกระโชกแรงในระยะแรก หลังจากนั้น อุณหภูมิจะลดลง สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น

ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 29 ก.พ.ถึง 2 มี.ค. 63 อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวันอุณหภูมิต่ำสุด 17-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียสบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-15 องศาเซลเซียส ลมอ่อน ความเร็ว 5-10 กม./ชม.ส่วนในช่วงวันที่ 3 ถึง 6 มี.ค. 63 อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 29 ก.พ. ถึง 1 มี.ค. 63 อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวันอุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียสบริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.ส่วนในช่วงวันที่ 2 ถึง 6 มี.ค. 63 อากาศเย็นในตอนเช้าโดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 29 ก.พ. ถึง 2 มี.ค. 63 อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.ส่วนในช่วงวันที่ 3 ถึง 6 มี.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ถึง 20 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 29 ก.พ. ถึง 2 มี.ค. 63 อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนในช่วงวันที่ 3 ถึง 6 มี.ค. 63 อากาศร้อนในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงอุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 29 ก.พ. ถึง 2 มี.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนในช่วงวันที่ 3 ถึง 6 มี.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตรอุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ตลอดช่วงลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตรอุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 29 ก.พ. ถึง 2 มี.ค. 63 มีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.ส่วนในช่วงวันที่ 3 ถึง 6 มี.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ขอบคุณ กรมอุตุฯ

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ