รอบนี้หนัก กรมอุตุฯ เตือน14 ถึง17 มีนาคม ให้ระวังพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง

รอบนี้หนัก กรมอุตุฯ เตือน14 ถึง17 มีนาคม ให้ระวังพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้าระหว่างวันที่ 11 มีนาคม 2563 - 17 มีนาคม 2563

การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 11-13 อากาศร้อนถึงร้อนจัดหลายพื้นที่ ส่วนภาคใต้มีฝนน้อย ส่วนในช่วงวันที่14 - 17 มี.ค. 63 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น

โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมทั้งอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 14 - 17 มี.ค. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง

โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 11 - 13 มีนาคม 63 อากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน

อุณหภูมิต่ำสุด 18-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-41 องศาเซลเซียส ลมอ่อน ความเร็ว 5-10 กม/ชม

ส่วนในช่วงวันที่ 14 - 17 มีนาคม 63 อากาศร้อนในตอนกลางวัน

โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม/ชม

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 11 - 13 และ 16 - 17 มี.ค. 63 อากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน

อุณหภูมิต่ำสุด 18-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ในช่วงวันที่ 14 - 15 มี.ค. 63 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม/ชม

ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 11 - 14มีนาคม 63 อากาศร้อนถึงร้อนจัดหลายพื้นที่กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน

อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39-41 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-20 กม/ชม

ส่วนในช่วงวันที่ 15 - 17 มีนาคม 63 อากาศร้อนในตอนกลางวัน

โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม/ชม

ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 11 - 13 มีนาคม 63 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่

ส่วนในช่วงวันที่ 14 - 17 มีนาคม 63 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรง

อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 11 และ 14 - 17 มี.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่

ในช่วงวันที่ 11 - 13 มีนาคม 63 ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ในช่วงวันที่ 14 - 17 มีนาคม 63 ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ตลอดช่วง

ในช่วงวันที่ 11 - 13 มีนาคม 63 ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากว่า 1 เมตร

ในช่วงวันที่ 14 - 17 มีนาคม 63 ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 11 - 13 มีนาคม 63 อากาศร้อนในตอนกลางวัน

อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม/ชม

ส่วนในช่วงวันที่ 14 - 17 มีนาคม 63 อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง

อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม/ชม

ขอบคุณ กรมอุตุฯ

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ