รายละเอียด แรงงาน ลูกจ้าง ที่รัฐเยียวยาจ่ายคนละ 5 พัน 3 เดือน

รายละเอียด แรงงาน ลูกจ้าง ที่รัฐเยียวยาจ่ายคนละ 5 พัน 3 เดือน

วันที่ 24 มีนาคม 63 จากที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยปลัดกระทรวงการคลัง ผอ.สศค. และอธิบดีกรมสรรพากร แถลงมาตรการดูแลและเยียวยาผลกระทบจากไวรัสโคโรนา หรือ โควิด 19 ต่อเศรษฐกิจไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม ระยะที่ 2 แรงงานลูกจ้าง ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระที่ไม่อยู่ในระบบประกันสังค

นายสมคิด กล่าวว่า เราจะยังมีมาตรการต่างๆ ออกมาช่วยเหลือประชาชนอยู่เรื่อยๆ นอกจากจะช่วยเหลือประชาชนแล้ว เราก็ต้องพยุงในส่วนของผู้ประกอบการด้วยเพื่อให้เขาดำเนินธุรกิจต่อไปได้ เพื่อให้เกิดการจ้างงานต่อไป

เราไม่ได้ต้องการให้เกิดการยึดสินทรัพย์ต่างๆ ของพี่น้อง ประชาชน จึงได้ประสานไปยังธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อประสานไปยังธนาคารให้ช่วยออกมาตรการต่างๆ ช่วยเหลือประชาชน ส่วนหลายคนกังวลว่าจะติดปัญหาเรื่องประวัติการผ่อนชำระ หรือเครดิตต่างๆ ประเด็นนี้ก็ให้ทางแบงก์ชาติเข้ามาช่วยดูแลแล้ว เพื่อเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ต่อไป

รายละเอียดเพิ่มสภาพคล่อง

1 สนับสนุนเงินคนละ 5,000 บาทต่อเดือนเป็นเวลา 3 เดือน

ให้เงินเยียวยาแรงงานลูกจ้าง ลูกจ้างชั่วคราวอาชีพอิสระที่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม จากการปิดที่เสี่ยงตามการระบาดชั่วคราว จำนวน 3 ล้านคน

สำหรับผู้อยู่ในระบบประกันสังคม เพิ่มสิทธิกรณีว่างงาน 50% ของค่าจ้าง โดย 1. กรณีนายจ้างไม่ให้ทำงาน รับเงินไม่เกิน 180 วัน และ 2. กรณีรัฐสั่งหยุด รับเงินไม่เกิน 90 วัน

2 สินเชื่อฉุกเฉิน 10,000 บาท ต่อราย

วงเงิน 40,000 ล้านบาท

อัตราดอกเบี้ย 0.01%

ไม่ต้องมีหลักประกัน

3 สินเชื่อพิเศษ 50,000 บาทต่อราย

วงเงินรวม 20,000 ล้านบาท

อัตราดอกเบี้ย 0.35% ต่อเดือน

ต้องมีหลักประกัน

4 สำนักงานธนานุเคราะห์ รับจำนำดอกเบี้ยต่ำ

วงเงิน 2,000 ล้านบาท

คิดดอกเบี้ยจากประชาชนในอัตราไม่เกิน 0.125% ต่อเดือน

รายละเอียดลดภาระ

5 ยืดการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

เลื่อนกำหนดเวลายื่นแบบและชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาออกไปเป็นสิงหาคม 2563

6 หักลดหย่อนเบี้ยประกันสุขภาพเพิ่มขึ้น

เพิ่มวงเงินลดหย่อนค่าเบี้ยประกันสุขภาพจาก 15,000 บาทเป็น 25,000 บาท

7 ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับค่าเสี่ยงภัยให้บุคลากรทางการแพท

รายละเอียดเพิ่มทักษะ

8 ฝึกอบรมมีเงินใช้ ฝึกอบรม เพิ่มทักษะอาชีพ หรือจัดกิจกรรมเพื่อสังคม ขยายฝึกอบรมผ่านภาคีเครือข่าย เช่น มูลนิธิโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กองทุนหมู่บ้าน เป็นต้น

ขอบคุณ thairath

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ