พ่อค้าปลาทู เผาร้านทิ้ง หลังไม่ได้เยียวยา 5000

พ่อค้าปลาทู เผาร้านทิ้ง หลังไม่ได้เยียวยา 5000

จากกรณีพ่อค้าปลาทูหนุ่ม จุดไฟเผาเข่งปลาทูเครื่องมือทำมาหากิน ประท้วงระบบการลงทะเบียนรับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาทจากรัฐบาล และวิงวอนให้รัฐบาลช่วยเหลือ และช่วยตรวจสอบให้คนที่เดือดร้อนจริงได้รับการช่วยเหลือโดยเร็ว

ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 เมษายน 63 ที่ผ่านมา นายศักดิ์สิทธิ์ นุ่มฤทธิ์ ผู้จุดไฟเผาเข่ง เปิดใจว่า ตนทำอาชีพพ่อค้าปลาทู 4 ปี หลังจากลงทะเบียนแล้วได้รับข้อความว่าไม่ได้รับสิทธิ์ วินาทีนั้นตนขาดสติ ตนเองกรอกข้อมูลจริง แต่ไม่ได้เงินเยียวยา 5,000 บาท แต่ระบบเอไอของโปรแกรมลงทะเบียน กลับแจ้งว่าไม่สามารถรับสิทธิ์ได้ แต่คนอื่นที่ไม่เข้าข่าย กลับได้รับเงินเยียวยา ซึ่งก็มีคนโพสต์ให้เห็นในเฟซบุ๊ก ตนเองจึงคิดว่าไม่เป็นธรรม

โดยร้านที่เผา เป็นร้านที่ใช้ขายของ เมื่อตนรู้สึกว่าไม่ยุติธรรม จึงตัดสินใจเผา เหมือนชีวิตเดินมาถึงทางตัน ตอนที่เผา แม่ก็เดินมาห้ามบอกให้หยุด แต่ตนเองขาดสติ ไม่ฟังแม่ จึงเผาเข่งปลาทูและร้านที่วางเข่ง รวมทั้งเครื่องมืออื่น ๆ จนไหม้ทั้งหมด ยอมรับว่าตอนทำไม่เสียดายของ แต่ตอนนี้ก็ต้องยอมรับผลที่ทำ ของที่เสียหายมูลค่าน่าจะหลักหมื่นบาท

หลังเกิดเหตุไวรัสระบาดหนัก เดือนที่ผ่านมา ตนทำมาหากินลำบาก ครอบครัวเดือร้อน ขายของไม่ได้ ไปขายตามตลาดนัด หรือหน้าโรงงาน และหน้าบ้านก็ขายไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ไม่นานมานี้ตลาดกลับมาเปิดใหม่ ก็ไม่มีคนเดิน ไม่มีคนมาซื้อของที่ตลาด ก็ขายไม่ได้เหมือนเดิม ตอนนี้ตนค้างเงินค่างวดรถ แต่ยังดีที่ธนาคารให้หยุดพักชำระหนี้ ซึ่งรายจ่ายตนประมาณเดือนละ 10,000 บาท แต่ขาดรายได้

ตนมีลูกต้องเลี้ยงดู ลูกก็ต้องกินต้องใช้ ไปขอเงินแม่ แม่ก็บ่น เพราะงานไม่มี แม่ก็เดือดร้อนเหมือนกัน หลังโพสต์คลิป ยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาช่วยเหลือ ตนอยากให้เปลี่ยนวิธีการคัดกรองช่วยเหลือคน หากได้เงิน 5,000 บาท ชีวิตคงจะดีขึ้น ลูกก็คงจะมีเงินไปซื้อของกิน

นายศักดิ์สิทธิ์ กล่าวว่า ขณะที่ลงทะเบียน ตนเองเฝ้ารอเหมือนคนโรคจิต คอยหยิบโทรศัพท์มือถือมาดูอยู่ตลอดว่าจะมีข้อความส่งมาบอกว่าได้เงินหรือไม่ หลังผลออกมาว่าไม่ได้รับสิทธิ์ ก็รู้สึกน้อยใจ เพราะตนเองเห็นคนอื่นสมัครเล่น ๆ แล้วได้เงิน แต่ทำไมตนเองไม่ได้เงิน

บางคนไม่ได้มีอาชีพเกษตรกร แต่ระบบบอกว่ามีอาชีพเกษตรกร ไม่ได้รับสิทธิ์ เหมือนโดนรังแก บางคนไม่ได้ลำบาก แต่ลงทะเบียนแล้วได้เงิน เอามาโพสต์โชว์เป็นเศษเงินหลังตู้เย็น หรือนำเงินไปใช้จ่ายอย่างอื่น อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบระบบคัดกรองให้ดีขึ้น

ขอบคุณ Amarin Tv

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ