ยายวัย 75 ปี ขอจำนำของมีค่าชิ้นสุดท้ายประทังชีวิตจากสถานการณ์ COVID19

ยายวัย 75 ปี ขอจำนำของมีค่าชิ้นสุดท้ายประทังชีวิตจากสถานการณ์ COVID19

จากสถานการณ์ COVID19 ไม่ว่าใครที่ไหนก็ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID19 ซึ่งได้รับความเดือดร้อนกันเป็นอย่างมาก และมีบางส่วนที่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล และผู้ที่มีจิตอาสาที่ประสงค์จะช่วยเหลือ แต่ทั้งนี้ความช่วยเหลือยังไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิตของประชาชน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 เม.ย. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองชัยนาท ตลอดทั้งวันมีประชาชนเดินทางมาใช้บริการกันเป็นจำนวนมาก โดยนางบัวลอย มนูวงศ์ อายุ 75 ปี ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID19

โดย นางบัวลอย ไม่สามารถทำงานรับจ้างได้เหมือนสถานการณ์ปกติ จำเป็นต้องนำสร้อยคอทองคำ หนัก 2 สลึง สมบัติมีค่าติดตัวอยู่ชิ้นสุดท้ายมาจำนำ โดยทางโรงจำนำตีราคาให้ 9000 บาท แต่ขอจำนำแค่ 5000 บาทไปก่อน เพราะกลัวหาเงินไปไถ่ถอนไม่ไหว

นางบัวลอย กล่าวว่า ปกติจะทำงานรับจ้างเล็กๆ น้อยๆ แต่พอโควิดระบาดงานก็ไม่มีใครจ้าง เงินที่ได้จากลูกหลานเคยส่งมาให้ใช้ก็ไม่มีเหมือนเดิมเพราะลูกๆ หลานๆ ก็ตกงานเหมือนกัน พากันลำบากไปหมด

ส่วนเงินเยียวยา 5 พันบาท ตามโครงการเราไม่ทิ้งกันนั้น ตัวเองไม่มีสมาร์ทโฟนก็ลงทะเบียนกับเขาไม่ได้ แต่ก็มารู้ทีหลังว่าคนอาชีพรับจ้างอย่างยายไม่มีสิทธิ์ได้ ก็หมดหวังจึงต้องเอาสมบัติชิ้นสุดท้ายมาจำนำเพื่อซื้ออาหารประทังชีวิต ทำได้แต่เพียงลุ้นว่าเมื่อไหร่จากสถานการณ์ COVID19 จะสิ้นสุดลง

ไม่ว่าอย่างไรสถานการณ์ COVID19 ก็ยังคงมีผลกระทบอย่างต่อเนื่อง แต่ถึงประชาชนจะยังคงเดือดร้อนก็ยังมีรัฐบาล และชาวไทยที่ยังคอยช่วยเหลือกันตามโครงการไม่ทิ้งกัน และประชาชนชาวไทยต้องดูแลรักษาตัวเองและรับผิดชอบต่อสังคมด้วยเพื่อป้องกันความปลอดภัยจากสถานการณ์ COVID19

ขอบคุณสถานธนานุบาล

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ