จากกรณี น้องชมพู่ เด็กหญิงอายุ 3 ขวบ ที่หายตัวไปจากบ้านพักใน อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร กว่า 4 วัน และพบเป็นศพสภาพเปลือยในป่าห่างจากบ้านพักหลายกิโลเมตร เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ทางพนักงานสอบสวนได้มีการส่งร่างของน้องชมพู่ มาชันสูตรหาสาเหตุการตาย ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์อุบลราชธานี

โดยทางแผนกนิติเวช โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี ได้มีการยืนยันผลการตรวจไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย และการล่วงละเมิดทางเพศ ตามที่เป็นข่าวไปนั้น จนกลายเป็นที่สงสัยและคาใจของญาติจนสู่การส่งตัวน้องชมพู่ไปชันสูตรรอบ 2 ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา

ต่อมาผลการชันสูตรรอบ 2 ว่า ผลเป็นบวก มีร่องรอยถูกทำร้ายร่างกายและล่วงละเมิดทางเพศ แต่ตรงไหนยังไม่ทราบ จนทำให้เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่นิติเวชของโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี ว่าไม่น่าเชื่อถือนั้น

ล่าสุด นายแพทย์ศักดิ์สิทธิ์ บุญญลักษณ์ หัวหน้ากลุ่มงานนิติเวช โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี เปิดเผยว่า แผนกนิติเวชโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี ขอยืนยันว่าไม่พบร่องรอยของการทำร้ายร่างกายหรือการร่วมเพศ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้มีการหารือแพทย์ทางสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เบื้องต้นก็ไม่มีการขัดแย้งแต่อย่างใด

ทั้งนี้หมอจากทางสถาบันนิติเวชเอง ไม่ได้ระบุว่ามีการทำร้ายร่างกายหรือล่วงละเมิดทางเพศ ระบุเพียง “ไม่ปรากฎสาเหตุการตาย แต่พบบาดแผลตามร่างกายและอวัยวะเพศ ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าบาดแผลที่พบเกิดจากการทำร้ายร่างกาย ล่วงละเมิดหรือสาเหตุใดแน่ชัด มีแต่การตีความจากสื่อเองว่าถูกทำร้ายร่างกาย แล้วเผยแพร่ทางสื่อต่างๆจนแผนกฯได้ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ซึ่งจะต้องแจ้งความดำเนินคดีต่อบุคคลดังกล่าว

นายแพทย์ศักดิ์สิทธิ์ หัวหน้ากลุ่มงานนิติเวช โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.มนูญ การกล้า รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี ให้ดำเนินการต่อบุคคลที่หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา