ครูบารวย เห็นแล้วคนพัวพัน อุ้มชมพู่ นิมิต 2 ชาย 1 หญิง

ครูบารวย เห็นแล้วคนพัวพัน อุ้มชมพู่ นิมิต 2 ชาย 1 หญิง

จากกรณีน้องชมพู่ อายุ 3 ปี สูญหายจากบ้านพักพัก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.63 จนไปพบศพกลางป่าบนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้าน 5 กม. กระทั่งผลชันสูตรจาก รพ.ตำรวจ พบบาดเเผลที่อวัยวะเพศ ขณะที่ตำรวจกำลังเร่งหาหลักฐานเพื่อตรวจหาดีเอ็นเอแฝง นอกจากนี้ยังมีหมอธรรมและพระป่าออกมาทำนายจุดซ่อนเสื้อ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญ โดยผ่านมา 38 วันแล้วแต่ก็ยังหาไม่พบ

ขอแสดงความเสียใจ

ครูบาเจ้าหน่อเขี้ยวแก้ว หรือหลวงพ่อรวย เจ้าอาวาสวัดป่านฤมิตร (ถ้ำมังกรทอง) จ.นครราชสีมา เมื่อทีมข่าวมาถึงก็พบกับลูกศิษย์ประมาณ 10 คน ที่เดินทางมาขอพร และทำบุญกับครูบารวย ซึ่งวันนี้ ครูบารวยได้ทำพิธีนั่งสมาธิ เพื่อเป็นการแผ่เมตตาให้กับน้องชมพู่ รวมถึงผู้สื่อข่าวทุกคนให้ช่วยคลี่คลายคดีให้ได้โดยเร็ว และนั่งสามธิครั้งนี้ครูบารวยก็ได้นิมิตถึงความคืบหน้าคดีน้องชมพู่ ซึ่งใช้เวลาในการนั่งนิมิตครึ่งชั่วโมง

หลังจากนั่งนิมิตเสร็จ ครูบารวยให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า ที่เห็นตนนั่งสมาธิสักครู่ตนได้แพร่เมตตาให้ดวงวิญญาณของน้องชมพู่ รวมถึงแผ่เมตตาให้กับเทพเทวดา เจ้าป่าเจ้าเขา ที่สิงสถิตย์อยู่ในเขาภูหินเหล็กไฟ ซึ่งเทพเทวดาเหล้านี้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือในวันที่ครูบารวยทำพิธีล้างอาถรรพ์ 4 จุด ที่จุดพบศพน้องชมพู่ เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.63 ที่ผ่านมา และตนยังแผ่เมตตาถึงเจ้าหน้าที่ทุกนาย รวมถึงนักข่าวให้คดีของน้องชมพู่คลี่คลายให้ได้โดยเร็

จากการนั่งนิมิตในครั้งนี้ ครูบารวยก็เห็นคนร้ายมีจำนวนมากกว่า 1 คน หรือไม่ต่ำกว่า 2 คน สำหรับคนร้ายที่พระครูบารวยเห็นในนิมิตนั้น คนที่ 1 เป็นผู้ชายรูปร่างสูง ผมยาว สวมเสื้อแขนยาวสีครามน้ำเงิน คนที่ 2 จะเป็นผู้ชายตัวเล็ก และคนที่ 3 ที่เห็นในนิมิตจะเป็นผู้หญิงสูงพอประมาณ ผมสีเทาดำ ผมหยิก ผิวสองสี โดยผู้หญิงรายนี้จะมีหน้าที่ในการสนับสนุน ดูลาดเลา และเป็นแรงผลักดันให้กลุ่มผู้ชายไปก่อเหตุ แต่ไม่ได้ไปลงมือก่อเหตุกับชายทั้ง 2 คน

และในมุมของคนร้าย ครูบารวยยังนิมิตเห็นบ้านของคนร้าย ที่มีลักษณะอยู่ติดกับเชิงเขาและไร่ โดยจะอยู่ฝั่งซ้ายมือของเขาภูเหล็กไฟ ซึ่งครูบารวยก็เล่าต่อว่า สิ่งที่นิมิตเห็นบ้านของคนร้ายในวันนี้นั้น ตนก็เห็นเป็นภาพลาง ๆ ซึ่งจะมีอยู่จริง หรือไม่จริงก็ได้

ส่วนนิมิตที่ตนเห็นน้องชมพู่ในวันนี้นั้น น้องชมพู่จะเป็นกายทิพย์อยู่กับเทวดา เจ้าป่าเจ้าเขา บนภูเหล็กไฟ โดยภาพที่ตนนิมิตเห็น น้องชมพู่และเหล่าเทวดา กำลังยืนยิ้ม เบิกบาน มีความสุข และบนยอดเขาภูเหล็กไฟ สมัยก่อนก็เป็นที่บำเพ็ญของนักพรต ฤาษี และเหล่านักบำเพ็ญ

และสำหรับกรณีที่ตนนิมิตเห็นคนร้ายมีจำนวนมากกว่า 1 คน ซึ่งแตกต่างจากร่างทรง หรือหมอธรรมรายอื่น ๆ นั้น ครูบารวยให้สัมภาษณ์ว่า กรณีนี้ก็แล้วแต่จิตญาณของแต่ละบุคคล ว่าจะนิมิตเห็นภาพอะไร อาตมาก็ไม่ได้มีจิตที่พิเศษอะไร ภาพจำนวนคนร้ายทั้ง 3 คน ที่เกิดในนิมิตมาจากการสื่อถึงเทพเทวดาบนเขาภูเหล็กไฟ ซึ่งทุกครั้งที่ตนนิมิต ตนจะตั้งจิตอธิษฐานว่า ผู้ใดมีวิบากกรรมกับน้องชมพู่ ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในวิบากกรรมนั้นจงปรากฏเป็นคนร้าย 3 คน

ภาพจาก amarintv

อาตมาคิดว่า การกระทำการของคนร้าย กระทำด้วยความรวดเร็ว จึงมีมากกว่า 1 คน ในระยะเวลาสั้น ๆ ที่ก่อเหตุ จะต้องมีการวางแผนดูลาดเลา ดูต้นทาง ในการก่อเหตุลักพาตัวน้อง และกรณีที่ตนนิมิตเห็นคนร้าย ว่ามีกำลังมีการต่อเติมบ้านนั้น ตนก็ขอยืนยันอีกครั้งว่า ในนิมิตครูบารวยเห็นภาพเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ที่คนร้ายมีการต่อเติมบ้าน แต่ตนก็ไม่อยากกล่าวหาใคร เพราะในนิมิตของการต่อเติมบ้านก็มีการต่อเติมหลายหลัง และวันนี้จากการที่นิมิต คนร้ายก็ยังอยู่ในอาการร้อนรน อยู่ในอาการจิตตก และญาติของคนร้ายก็ปกป้องลูกหลานของเขาอยู่

สำหรับเสื้อของน้องชมพู่ ที่เป็นหลักฐานสำคัญ และยังหาไม่เจอนั้น จากการนิมิต ครูบารวยก็ให้สัมภาษณ์ว่า ครูบารวยเห็นจุดที่คนร้ายซ่อนเสื้อน้องชมพู่ แต่ไม่สามารถบอกข้อมูลได้ เนื่องจากกลัวคนร้ายไหวตัวทัน และนำเสื้อไปซ่อนไว้ที่อื่น

ครูบารวยได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงกรณีที่หลวงปู่เดือนชัยถูกขับไล่ให้ออกจากจังหวัดมุกดาหารว่า เป็นบทลงโทษสมควร เพราะก่อนหน้านี้ หลวงปู่เดือนชัยมีการแสดงอาการที่เผลอเรอ มีการเขียนตัวเลข คำใบ้ ถึงไม่ใช่การบอกหวยโดยตรงแต่ก็มองว่าเป็นการกระทำที้ผิดวินัยสงฆ์ และที่พระเดือนชัยมีอาการควบคุมตัวเองไม่ได้ ทั้งการเดิน การหมุนตัว ครูบารวยก็ถือว่าเป็นอาการที่ไม่พึงมีในสมณะสงฆ์

อย่างไรก็ตามครูบารวย ยังมองว่า บทลงโทษของสงฆ์ที่ทำผิดวินัยของหลวงปู่เดือนชัย ยังถือว่าอยู่ในขั้นเบา เพราะแค่โยกย้ายสถานที่ ถ้าบทลงโทษหนักอาจถึงขั้น ให้พ้นสภาพจากการเป็นพระสงฆ์ หรือเรียกว่าให้ลาสิกขา

นางสาวิตรี เปิดเผยว่า ครอบครัวตนไม่เคยขัดแย้งกันเรื่องที่ดิน ซึ่งแต่ละคนจะได้จำนวนไร่ไม่เท่ากันอยู่แล้ว ใครได้ที่งาม ๆ ก็จะได้น้อยกว่าคนที่มีที่ดินกินเนื้อที่ภูเขา เพราะที่ดินพื้นภูเขามักจะปลูกอะไรไม่ค่อยได้ ส่วนเรื่องครูบารวย ตนเชื่อคำที่ท่านบอก เพราะคิดว่าคนร้ายน่าจะมีมากว่า 1 คน

โดยที่ดินของตน ก็จะมีประมาณ 6-7 ไร่ รวมสวนยางด้วย ส่วนของป้าแต๋น ที่อยู่ติดกันก็ประมาณเท่า ๆ กัน ส่วนนางจุไรภรณ์ ก็จะประมาณ 6 ไร่ ส่วนของนายนรินทร์ น้องชายคนเล็ก และน.ส.น้ำฝน น้องสาวคนเล็ก จะยังไม่ได้แบ่งจากตากับยาย และตนไม่ทราบจำนวนกี่ไร่

ภาพจาก amarintv

ก่อนหน้าที่น้องชมพู่จะหาย ที่มีกระแสข่าวว่านายกิ้ง น้องชายของสามีมาขอเงินที่บ้าน ตนยืนยันว่าไม่จริง แต่ยอมรับว่าเคยมา แต่นานมากเมื่อปลายปี 62 ตอนนั้นตนก็อยู่ที่บ้าน ตนก็รู้ทุกอย่าง ตนก็งงว่าตอนนี้มีเรื่องแบบนี้มาได้อย่างไร พอมีกระแสข่าวแบบนี้ ตนไม่ได้รู้สึกเครียดอะไร เพราะเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง และไม่เกี่ยวกันกับคดีน้องชมพู่ ตนหวังแค่ตำรวจจะช่วยคลี่คลายคดีได้

อย่างไรก็ตาม สุดท้ายตนก็ไม่อยากพูดอะไรมากกับคนที่ว่าครอบครัวของตน เพราะตนเคยอ่านหนังสือธรรมะ ว่าหากใครพูดอะไรมา หากเราไม่รับก็จะกลับไปหาเขาเอง ตนขออยู่เงียบ ๆ ดีกว่า ตนแคร์แค่ครอบครัวตน และแคร์ชาวบ้านมากกว่า

ขอบคุณที่มาจาก amarintv

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ