เป็นอีกหนึ่งคดีที่สังคมให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง แม้จะผ่านมาแล้ว 42 วัน กรณีการเสียชีวิตของ น้องชมพู่ อายุ 3 ปี ที่สูญหายจากบ้านพัก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.63 จนไปพบศพกลางป่าบนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้าน 5 กม. ขณะที่ตำรวจกำลังเร่งหาหลักฐานที่อาจจะเชื่อโยงคดี กระทั่งมีพระสงฆ์จาก จ.เชียงราย เดินทางมาพบครอบครัว พร้อมกับนิมิตอ้างว่า เด็กเดินตามเสียงไสไม้ขึ้นเขา และในมือได้ถือรถแบ็กโฮ จากนั้นเหยียบสายไฟจนถูกไฟดูดเสียชีวิต

ขอแสดงความเสียใจ

ล่าสุดครูบารวย ได้เผยว่า ภาพที่นิมิตรเห็นก่อนหน้านี้นั้น ตรงกับชายรายหนึ่ง ตนไม่ได้ตั้งใจจะกล่าวหา หรือชี้นำแต่อย่างใด ที่ตนนิมิตเห็นภาพของคนร้ายในแต่ละครั้งนั้น ก็เป็นเพราะเจ้ากรรมนายเวรอยากสำแดงให้ตนเห็น 

สำหรับวันนี้ 21 มิ.ย.63 ซึ่งเป็นวันที่ 41 นับจากพบศพน้องชมพู่นั้น ครูบารวยขอยืนยันว่า วันนี้ตนได้เห็นภาพคนก่อเหตุชัดแล้ว จากการเห็นในข่าว แต่ในมุมของคดีที่คนร้ายยังไม่เผยตัวออกมานั้น ครูบารวยก็ตอบว่า เดี๋ยวก็รู้

ภาพจาก amarintv

จากกรณีพระเดือนชัย ที่ถูกชับไล่ออกจากจังหวัดมุกดาหารนั้น ครูบารวย กล่าวว่า ทางสำนักพุทธยังไม่ได้ออกมาตักเตือนอาตมาแต่อย่างใด คิดว่าพระชั้นผู้ใหญ่คงเข้าใจ ในสิ่งที่ตนกำลังปฏิบัติ ขอยืนยันว่า สิ่งที่ตนให้ข่าวเกี่ยวกับการนิมิตเห็นคนร้ายนั้น ตนไม่ได้นึกเอง แต่สิ่งที่ตนเห็นมาในรูปแบบของเจ้ากรรมนายเวร

บางกระแสก็ว่าตนต่อยอดการทำมาหากิน ตนขอยืนยันว่าตนไม่ได้เดือดร้อน อาตมาไม่ได้ใช้เงินฟุ่มเฟือย ทุกวันนี้อาตมาก็อยู่แต่กับญาติโยม กับชาวบ้านแบบเรียบง่าย สำหรับวันนี้ที่มีเหตุการณ์ สุริยุปราคานั้น ครูบารวยคิดว่าเป็นปรากฏการณ์ที่จะทำให้เจอคนร้ายในคดีน้องชมพู่ได้เร็วขึ้น และวันนี้เป็นวันที่ 41 พรุ่งนี้เป็นวันที่ 42 ตามนิมิตจะเจอคนร้ายนั้น ครูบารวยก็ตอบว่า สิ่งที่ตนให้สัมภาษณ์ถึงวันที่ 41, 42 เป็นฤกษ์ของเทวดาที่บอกตนในนิมิตว่า คนร้ายจะเผยตัวออกมา

ครูบารวย ให้สัมภาษณ์ขณะทำพิธีจุดธูปว่า เมื่อคืนนี้เวลา 00.00 น. ซึ่งเป็นคืนของวันพระ อาตมาได้ทำพิธีพระอรหันต์ทรงเมือง โดยมีการตั้งเทียนไว้ 4 ทิศ เพื่อให้เกิดความสว่างไสว เพื่อการกระทำอะไรก็ตามที่ถูกปกปิดอยู่ จะได้สว่างไสวคลายออกมา แต่ระหว่างทำพิธีปรากฏว่าเทียน 1 เล่ม ที่ตั้งทางทิศตะวันตกได้ล้มลงและดับ ทั้งที่ไม่มีลม คาดว่าคนร้ายถ้ายังไม่รับสารภาพ อาจทำให้ตำรวจต้องจับกุมคนร้ายชนิดที่ต้องเลือดตกยางออก