จากกรณีน้องชมพู่ อายุ 3 ปี สูญหายจากบ้านพักพัก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.63 จนไปพบศพกลางป่าบนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้าน 5 กม. กระทั่งวันที่ 24 มิ.ย.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับนายนริน เชื้อคมตา ผู้ต้องหาคดีอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งก่อเหตุกับเด็กหญิงขวัญ วัย 5 ขวบ และยังตกเป็นผู้ต้องสงสัยคดีน้องชมพู่ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น  

ขอแสดงความเสียใจ

ต่อมาช่วงบ่ายที่ผ่านมา ตำรวจเชิญตัวนายอนามัย และนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา พ่อและแม่ของน้องชมพู่ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง ที่ สภ.กกตูม จังหวัดมุกดาหาร โดยมุ่งปมความขัดแย้งที่อาจมีความเชื่อมโยงกับการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ซึ่งคาดว่าเป็นการสอบปากคำ ว่ามีความขัดเเย้งในครอบครัว หรือมีความขัดเเย้งกับคนในหมู่บ้านหรือไม่ ซึ่งคดีนี้ตำรวจมีเเนวทางการสืบสวนที่ชัดเจนเเล้ว เเต่ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน

ภาพจาก amarintv

โดยนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่ ขอไม่เปิดเผยรายละเอียดการสอบปากคำ เเต่บอกว่ายังมั่นใจในการทำงานของเจ้าที่ตำรวจ เพราะมีการประสานงานพูดคุยกันตลอด โดยตำรวจยืนยันกับแม่ว่าคดีมีความคืบหน้า และจะเปิดเผยรายละเอียดเมื่อถึงเวลา

สำหรับการสอบปากคำในครั้งนี้ มีการเเยกสอบ ซึ่งเเม่ของน้องชมพู่ ใช้เวลาสอบปากคำ 2 ชั่วโมง ก่อนจะเดินทางกลับ ส่วนพ่อของน้องชมพู่ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำ

ภาพจาก amarintv

กระทั่งในเวลา 20.00 น. นายอนามัย วงศ์ศรีชา พ่อของน้องชมพู่ ให้สัมภาษณ์ด้วยสีหน้าที่ปกติ ไม่ได้มีความเครียดแต่อย่างใด หลังจากที่ไปสอบปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.กกตูม ว่าวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตนไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.กกตูม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้สอบปากคำตนถึงเรื่องเดิม ๆ และมีให้คำมั่นสัญญากับตนว่า ยังติดตามคดีให้อยู่ตลอด ให้มั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็สอบปากคำตนไม่ถึง 30 นาที ส่วนใหญ่จะนั่งพูดคุย และนั่งเล่นกัน

ส่วนตัวแล้วก็มีกำลังใจมากขึ้น เรื่องของนายนรินที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจล็อกตัว ตนก็ไม่อยากจะออกความคิดเห็นว่าจะเกี่ยวข้อง หรือเชื่อมโยงกับคดีน้องชมพู่หรือไม่ และประเด็นรถจักรยานของนายนริน ตนก็ไม่ได้เห็นจอดที่สวนยางพาราในวันที่น้องชมพู่หายตัวไป ส่วนภรรยาของนายนริน ตนก็เห็นว่ามาช่วยตามหาน้องชมพู่ในวันเกิดเหตุจริง และเรื่องที่มีร่างทรงมาทำนายว่าคนร้ายเป็นคนใกล้บ้าน ตนก็ไม่รู้สึกกังวล เพราะตนไม่เชื่อเรื่องนี้อยู่แล้ว

ภาพจาก amarintv

ทีมข่าวเดินทางมาพบกับ นายไชย์พล วิภา และ นางสมพร หลาบโพธิ์ ลุงกับป้าน้องชมพู่ เปิดเผยว่า ตนไม่ได้มีความกังวลเรื่องหมอธรรมที่ออกมาให้ข้อมูล เพราะเป็นเพียงคำทำนายของหมอธรรม ไม่คิดว่าตำรวจจะเชื่อ และก็ไม่คิดว่าชาวบ้านจะเกิดความแตกแยก หลังจากมีการทำนายว่าคนร้ายอยู่บ้านใกล้รัศมี 200 เมตร

ส่วนเรื่องนายนริน ตนยังไม่รู้ว่าจะเกี่ยวข้องกับคดีชมพู่ ต้องรอการสอบ พยานหลักฐานว่าจะเกี่ยวข้องกับชมพู่หรือไม่ วันที่ค้นหาชมพู่ ตนไม่ได้เห็นนายนรินเลย ประกอบกับตนไม่ได้ค้นหาอยู่แถวนี้ ส่วนใหญ่วิ่งหาหมอธรรม ทำให้ช่วงค้นหาก็ไม่ได้มีเวลามาก แต่เท่าที่รู้ ตนไม่เห็นนายนริน หรือรถของนายนริน