เรียกว่ายังตามกันต่อเนื่องสำหรับกรณีของ การหายตัวของ เด็กหญิงอรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือ น้องชมพู่ อายุ 3 ปี สูญหายจากบ้านพัก หมู่ 2 บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค. 63 จนกระทั่งพบศพอยู่กลางป่าบนภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้าน 4-5 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่เร่งเก็บหลักฐานหาตัวคนร้าย ซึ่งคาดว่าเป็นคนในหมู่บ้าน และจากคำกล่าวอ้างจากพยานพบจักรยานยนต์สีบรอนซ์-ดำ เป็นผู้ต้องสงสัย

ขอแสดงความเสียใจ

ความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตปริศนา ของน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ หายออกจากบ้านหมู่บ้านกกกอก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร และต่อมาพบว่าเสียชีวิตบนภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้านน้องประมาณ 5 กม. ซึ่งคดีนี้ผ่านมา 49 วันแล้ว ยังติดตามจับกุมคนร้ายไม่ได้

ต่อมาศาลจังหวัดมุกดาหาร ออกหมายจับนายนริน เชื้อคมตา ในข้อกระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกินสิบสามปี ซึ่งเป็นเด็กภายในหมู่บ้าน และมีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับคดีของน้องชมพู่ด้วยหรือไม่นั้น

ล่าสุดวันที่ 29 มิ.ย. ภรรยาของนายนริน ได้เปิดใจว่า มั่นใจสามีของตนไม่ได้ทำ พร้อมกับเดินทางเพื่อไปขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้สามีของตนเองนั้นหลุดพ้นจากคดี และอยากให้สังคมอย่าเพิ่งตัดสิน เพราะตอนนี้ครอบครัวของตนได้รัความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ต้องหาหลักทรัพย์ไปประกันสามีถึง 300,000 บาท พร้อมกับมั่นใจสามีไม่เกี่ยวคดีน้องชมพู่อย่างแน่นอน 

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังรายงานอีกงว่า ผลการตรวจพิสูจน์เส้นขนที่เจอกับศพน้องชมพู่ ที่ก่อนหน้านี้มีการสัญนิฐานว่าอาจเป็นของคนร้าย แต่ล่าสุดผลออกมาว่าเป็นดีเอ็นเอของน้องชมพู่เอง โดยชุดสืบสวนได้สอบปากคำพยานไปทั้งหมด 280 ปาก พบพิรุธเพียงบางคน แต่ยังไม่สามารถออกหมายจับได้ เพราะหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ยังไปไม่ถึง