เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา ตำรวจชุดป้องกันและปราบปราม สภ.ควนโดน จ.สตูล นำกำลังไปตรวจสอบสวนทุเรียนพื้นบ้านและสวนผสมของนางฮาสนะ หมาดโตโสะ อายุ 55 ปี ตั้งอยู่หมู่ที่ 9 บ้านควนไสน ต.ควนสตอ อ.ควนโดน จ.สตูล ซึ่งเป็นผู้เสียหายร้องทุกข์ หลังถูกหัวขโมยแอบเข้ามาลักเก็บผลทุเรียนบ้านไป 7 ลูก แม้ราคาทุเรียนบ้านจะมีราคาไม่สูงเท่าทุเรียนหมอนทองและชะนี แต่เป็นรายได้อีกช่องทางหนึ่งของชาวสวนยางพาราในช่วงฤดูกาลผลไม้ สร้างรายได้ไม่น้อยกว่า 1 แสนบาท แต่มาระยะหลังนี้หัวขโมยออกอาละวาดทำให้รายได้ลดเหลืออีกหลัก 2-3 หมื่นบาท

ชาวบ้านในพื้นที่ ต.ควนสตอ ที่มีสวนผสม ยอมรับว่า ปีนี้ราคาผลไม้แม้จะดี โดยทุเรียนบ้านอยู่ที่ 45-50 บาท แต่ผลผลิตออกน้อยเพราะติดแล้งยาวนาน และยังมาเจออุปสรรคหัวขโมยทุเรียนอีก เพราะที่ผ่านมาจับหัวขโมยไม่เคยได้เลย เพราะไม่รู้จะไปจับมือใครดม

จนล่าสุดนางฮาสนะ ได้ตัดสินใจขึ้นโรงพัก สภ.ควนโดน พร้อมหลักฐานทุเรียนพื้นบ้าน 1 ลูก และเปลือกทุเรียน หลังพบหลักฐานว่าหัวขโมยได้ขโมยทุเรียนพื้นบ้านออกไปจากสวนของตนจริง โดยมีหลักฐานคนที่ซื้อไว้ และสาวไปถึงคนที่เอามาฝากไว้ให้ขายอีก 3 ทอด โดยต้องการให้ตำรวจเร่งสืบสวนถึงต้นตอคนร้ายมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ด้าน พ.ต.ต ชณัฐชัย วงศ์ศรีวิจิตร สารวัตรสอบสวน สภ.ละงู ปฏิบัติราชการ สภ.ควนโดน สอบสวนนางฮาสนะ ว่า แน่ใจได้อย่างไรว่าทุเรียนพื้นบ้านพร้อมเปลือกนี้เป็นของตนเอง โดยเจ้าทุกข์ยืนยันว่าหากเป็นหมอนทอง หรือชะนี อาจไม่รู้เพราะมันจะเหมือนกัน แต่หากเป็นทุเรียนพื้นบ้านต่อให้เปลือกไปกองรวมกับทุเรียนอื่นตนก็ระบุได้ว่าอันไหนคือของตน ทำให้ทางตำรวจรับแจ้งความและลงมือสอบสวนย้อนรอยไปจนพบว่ามีการนำทุเรียนมาขายต่อถึง 4 ทอด

โดยคนร้ายตัวจริงพบว่าเป็นวัยรุ่นที่ไปมั่วสุมเสพน้ำกระท่อมใกล้กับสวนทุเรียนพื้นบ้านของเจ้าทุกข์ ก่อนลงมือเด็ดทุเรียนพื้นบ้านมาและมาฝากขายต่อให้กับคนรู้จัก ก่อนส่งต่อไปจนถึง 4 ทอดมาจนถึงทอดสุดท้ายที่มาพบกับบุตรสาวเจ้าทุกข์ ที่ไปเห็นทุเรียนนี้ที่บ้านเพื่อนบ้าน และยืนยันว่าเป็นทุเรียนของตน จนมีการสืบสวนและติดตามคนร้ายวัย 21 ปี คนในตำบลเดียวกันเป็นผลสำเร็จ

หัวขโมยรายนี้ รับสารภาพว่า ไปขโมยมาจริง โดยวันนี้ครบกำหนดควบคุมตัวเตรียมส่งฝากขังยังศาลจังหวัดในข้อหา ลักทรัพย์ของผู้อื่น แต่หัวขโมยให้การปฏิเสธข้อหารับของโจร

ขอบคุณ นสพ.แนวหน้า