ลุงพล ตอกกลับแม่น้องชมพู่ ไม่คิดจะมีจิตอกุศลเช่นนี้ ลั่นให้ไปส่องกระจกดูตัวเองก่อนว่าคนอื่น

ลุงพล ตอกกลับแม่น้องชมพู่ ไม่คิดจะมีจิตอกุศลเช่นนี้ ลั่นให้ไปส่องกระจกดูตัวเองก่อนว่าคนอื่น

จากกรณีการเสียชีวิตของ น้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ในพื้นที่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงเดินหน้าสืบสวนสอบสวนหาข้อสรุปสาเหตุการเสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตลอดเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมายังมีหลายประเด็นที่สังคมคาใจอีกมากมาย

ล่าสุด นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ในตอนนี้ดูมีสีหน้าที่ค่อยข้างกังวล และดูเหมือนมีเรื่องอยากจะอธิบาย จึงได้เปิดเผยว่า ตนเองเพิ่งได้ดูข่าวที่แม่ชมพู่ไปพูดผ่านสื่อ ตนพูดได้เต็มปากว่าวันนี้ เสียใจ เสียความรู้สึก ทั้งที่ผ่านมาตนยังไม่ถึงขั้นเสียความรู้สึก โดยเฉพาะการพูดแบบดูถูกตนแบบสุด ๆ ตนเองเสียความรู้สึกมาก ๆ ที่พี่น้องมาคิดกับตนแบบนี้ ตนเองเป็นคนจนจริง โดยช่วงนี้ลุงพลถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่

เผยว่าตนเองจนแต่ไม่แร้งน้ำใจ หากพี่น้องกันเองมีความรู่สึกดี ๆ กับตนได้แค่นี้ ดูถูกน้ำใจตนมาก หากคนที่อยู่ในที่นั่งแบบนั้น คงทำใจไม่ได้ อย่างประเด็นที่ตนรักลูกเขามากไป ตนเองก็อยากบอกว่า การที่ญาติมารักลูกตัวเอง มันไม่ดีเหรอ จะกลัวอะไร ไม่ดีใจเหรอที่มีคนดูแลลูกตัวเอง ทำไมไปคิด อกุศล

ทั้งนี้ตนเคยเลี้ยงหลานที่เป็นลูกพี่สาว ซึ่งสวยมาก ตนเองเลี้ยงแทบจะอาบน้ำแก้ผ้ากันอยู่แล้ว ตนเองจะไปคิดแบบนั้นได้อย่างไร ต่อให้หลานสวยขนาดไหน ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเป็นลูกเป็นหลาน สายเลือดตนไม่ใช่คนอื่น ตนคิดแบบนั้นไม่ได้ ขนาดภรรยาของตนก็ไม่ได้มีอะไรด้วยตั้งแต่ปี 2557 เพราะตนมันเลว มันมั่ว มันชั่ว ตนไม่อยากให้เมีย ต้องมารับกรรม ซึ่งตนไม่อยากให้ป้าแต๋นที่เป็นผ้าขาว ต้องมาเจอสิ่งนี้ ต้องมารับเลือดสกปรกจากตน ตนจึงไม่ได้มีอะไรกับป้าแต๋น เพราะเป็นห่วงชีวิตลูกกับภรรยา หากตนต้องตาย ให้ตนตายคนเดียว แต่ไม่เข้าใจแม่น้องชมพู่ เอาเรื่องนี้มาคิดพัวพันเรื่องแบบนี้ ตนอยากถามว่า คิดได้ยังไง เอาส่วนไหนคิด

นอกจากนี้มันเป็นเรื่องที่ครอบครัวชมพู่ดูถูกน้ำใจตน ดูถูกฐานะตน ดูถูกฐานะตน ตนอยากถามว่าคนที่รวยล้นฟ้าเขามีความสุขทุกคนหรือไม่ ทุกคนมีปัจจัย 4 มีเท่าไรก็พอใจ พอเพียงในสิ่งที่ตัวเองมี แม่ชมพู่บอกว่าให้ดูฐานะของตัวเองทำนองว่าจะเลี้ยงลูกของเขาได้หรือไม่ โดยเปรียบเทียบว่าให้ดูฐานะตนกับพ่อแม่ชมพู่ ซึ่งคำพูดนี้ทำให้ตนรู้สึกเสียใจกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ตนไม่อยากเสียน้ำตาให้เรื่องแบบนี้ตนยอมรับว่านอนไม่หลับคิดไม่ออกกับคำถามของแม่ชมพู่ คิดไม่ออกว่าแม่ชมพู่คิดได้อย่างไร ไม่คิดว่าคนที่บรรลุนิติภาวะแล้วจะพูดออกมาได้ จะคิดแบบนี้ได้ คนที่มีความจริงใจกับคนอื่น

คนรอบข้างความคิดแบบนี้มันจะไม่มี คนที่มีความเอื้อเฟื้อจะไม่คิดแบบนี้ ตนเองอยากให้แม่ชมพู่ไปส่องกระจกดูก่อน ดูสื่อหลาย ๆ สื่อ ดูให้ลึกซึ้งให้รอบด้าน รอบครอบ บางอย่างไม่ใช่ความจริง ขอให้ยึดความจริง ทำไมหลายครั้งต้องไปอ้างจากสื่อ สื่อก็ไม่ได้ผิด เขาพยายามอยู่ พยายามช่วยเพื่อไม่ให้คดีเงียบ ตนทำทุกวันนี้เพราะต้องการให้สื่อยังอยู่ในพื้นที่ ตนเองพูดออกมาจากใจ ตนไม่ได้เสแสร้ง ไม่ได้แกล้งทำ คนซื่อ ๆ

ขอบคุณอมรินทร์

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ