โซเชียล ฟันธงมือสังหารน้องชมพู่  ขุดไม่ยั้ง รู้เลยใครเป็นคนฆ่า

โซเชียล ฟันธงมือสังหารน้องชมพู่ ขุดไม่ยั้ง รู้เลยใครเป็นคนฆ่า

จากกรณีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่เสียชีวิตบริเวณป่าภูเหล็กไฟ บ้านกกกอก หมู่ 2 ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ขณะนี้ยังไม่สามารถจับคนร้ายได้ ต่อมากลายเป็นที่จับตามองอย่างมากเมื่อนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่น้องชมพู่ เปิดใจยอมรับว่าสงสัยลุงพลนั้นเป็นผู้ก่อเหตุกับน้องชมพู่ ซึ่งทางด้าน ลุงพล ทนไม่ไหว ประกาศตัดญาติทันที พร้อมแฉความลับของแม่น้องชมพู่ ว่าไม่เคยขึ้นไปภูเหล็กไฟเลย ไม่ยอมไปดูสถานที่เกิดเหตุเลยแม้แต่ครั้งเดียวจนชาวบ้านต่างสงสัยและพูดกันต่างๆนาๆ หรือกำลังกลัวอะไรบางอย่าง

คดีถูกจับตามากขึ้น เมื่อ ด.ญ.บลู (นามสมมติ) หนึ่งในแก๊งจำปา ที่เล่นบริเวณต้นจำปาในวันที่น้องชมพู่หายตัวไป เปิดเผยข้อมูลสำคัญว่า วันที่น้องชมพู่หายตัวไป น้องสะดิ้ง พี่สาวของน้องชมพู่ ไม่ได้นอนหลับแต่อย่างใด เท่าที่ตนเห็นสะดิ้ง เขาจะนอนคว่ำหน้า เล่นโทรศัพท์อยู่ที่แคร่หน้าบ้านตนเอง หลังจากน้องชมพู่หายตัวไปได้ 1 วัน

ล่าสุดผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งได้โพสต์ถึงเรื่องราวค ดี น้องชมพู่ ว่า น้องชมพู่เกิดในจังหวะเวลาที่โชคร้ายมาก หลังจากมี น้องสะดิ้ง พ่อแม่เคยแยกกันอยู่ ต่างคนต่างมีใหม่ช่วงเวลาหนึ่ง แล้วพอกลับมาคบกัน ดันมีท้องน้องชมพู่ ปัญหาจึงสะสมขึ้นมาอีก แต่ตัวพ่อแม่และญาติรู้แน่ว่าน้องช มพู่เป็นลูกใคร รวมทั้งลุงพลกับป้าแต๋นด้วย

ดังนั้น ไม่ต้องไปเชียร์ให้ลุงพูดทุกเรื่องกับสื่อหรอก ยังไงลุงพลแกก็ไม่พูด แต่ช่วงนี้แฟนคลับต้องอดทนหน่อยนะ เพราะผู้ร้า ยหน้าด้านเหลือเกิน ใจดำอำ มหิต มาก

ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายเดิมเผยต่อว่า จริงๆ แล้วตำรวจเขาทำงานอย่างเดียว เป้าหมาย คือ หาคนร้ายตัวจริงเท่านั้น ไม่ได้มีหน้าที่เอาใจใคร หรือพูดความจริงให้สื่อฟังทั้งหมด

ส่วนกรณี ลุงพลน่าสงสารจริงครับ แต่มันเกิดจากสื่อมวลชนปั่นกันเอง ถ้าตัดสื่อออกก็ไม่มีอะไรกังวล ผู้กำกับบ้านเราได้เข้าไปช่วยงานค ดีนี้ด้วย พ่อแม่หลบตาตอนสอบสวนทุกครั้ง ขณะที่คนอื่นไม่หลบตาตำรวจ และตำรวจเขารู้นานแล้วว่าพ่อแม่ฆ่าเด็ก แต่หลักฐานมัดจนดิ้นไม่หลุดและยังไม่ครบ

ผู้ใช้ทวิตเตอร์ดังกล่าวทิ้งท้ายว่า พ่อแม่สังหารลูก 100% ทั้งนี้ คดีของ น้องชมพู่ จะจบลงอย่างไร ใครเป็นคนฆ่าน้องช มพู่ ก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสื บหาความจริงและต้องติดตามกันต่อไป

ขอบคุณที่มาจาก คมชัดลึกออนไลน์

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ