จากกรณีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่เสียชีวิตบริเวณป่าภูเหล็กไฟ บ้านกกกอก หมู่ 2 ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ขณะนี้ยังไม่สามารถจับคนร้ายได้ ต่อมากลายเป็นที่จับตามองอย่างมากเมื่อนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่น้องชมพู่ เปิดใจยอมรับว่าสงสัยลุงพลนั้นเป็นผู้ก่อเหตุกับน้องชมพู่ ซึ่งทางด้าน ลุงพล ทนไม่ไหว ประกาศตัดญาติทันที พร้อมแฉความลับของแม่น้องชมพู่ ว่าไม่เคยขึ้นไปภูเหล็กไฟเลย ไม่ยอมไปดูสถานที่เกิดเหตุเลยแม้แต่ครั้งเดียวจนชาวบ้านต่างสงสัยและพูดกันต่างๆนาๆ หรือกำลังกลัวอะไรบางอย่าง

ล่าสุด ประเด็น แผลลักษณะเป็นรูบริเวณสะโพกขวาบนศพน้องชมพู่ โดยมีลักษณะเป็นรู คล้ายกับของมีคมแทง สร้างความสงสัยแก่สังคมว่ามันคือรอยอะไรกันแน่ และเรื่องนี้อาจจะเป็นหลักฐานสำคัญต่อคดีที่ยังปิดไม่ลง ทั้งที่ผ่านไปนานกว่า 2 เดือนแล้ว

ล่าสุดนพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว กล่าวว่า ตอนนี้ศพถูกเผาไปแล้ว หากดูจากรูปจะวิเคราะห์ยากพอสมควร แต่ส่วนตัวคิดว่า ร่องรูนั้นเกิดหลังจากเสียชีวิตไปแล้ว เพราะไม่มีเลือดออก เช่น เมื่อน้องชมพู่เสียชีวิต ร่างอาจจะทับหินแหลม ๆ หรือไม้เป็นเวลานานจนเป็นรอยบุ๋มลงไปอย่างที่เห็น เป็นต้น เนื้อของผู้ตายเวลาถูกอะไรทิ่มจะไม่เด้งขึ้นมาเหมือนคนเป็น

เรื่องนี้ความยากอยู่ที่ ความลึกของแผลดูจากภาพไม่ได้ ต้องผ่าพิสูจน์ จะเห็นเนื้อเยื่อภายในถึงวิเคราะห์ได้ แต่ตัดเรื่องรอยกระสุน กับการแทงด้วยมีดได้เลย เพราะไม่มีร่องรอยฉีกขาด ตนคิดว่าไม่มีผลต่อการเสียชีวิตหรือการทำร้ายร่ายกาย แต่แพทย์ที่ชันสูตรก็ไม่ได้ปล่อยผ่านจุดนี้ไปอยู่แล้วเพราะต้องดูร่องรอยตามตัวศพทุกจุดอย่างละเอียด

ขณะที่นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่น้องชมพู่ กล่าวว่า ไม่เคยสังเกตว่ามีแผลนี้ เพิ่งทราบเหมือนกัน เท่าที่จำความได้เคยตีลูก 1 ครั้ง เพราะไม่ยอมเชื่อฟัง ปกติเลี้ยงลูกตนมักไม่ใช้ความรุนแรง

ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว

ป้าแต๋นเคยอาบน้ำให้ชมพู่ ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นบาดแผลเช่นนี้ รวมถึงรอยช้ำอื่น ๆ ก็ไม่มี ที่ผ่านมาน้องชมพู่เหมือนตุ๊กตาในบ้าน แผลที่เห็นมันเหมือนถูกอะไรทิ่ม แต่ก็ไม่ทราบมาจากไหน

ขอบคุณที่มาจาก รายการทุบโต๊ะข่าว