ลือสะพัดหลักฐานใหม่เจอ 2 ชาย อยู่ข้างชมพู่ คนขึ้นเขาได้ยินคนคุยกัน

ลือสะพัดหลักฐานใหม่เจอ 2 ชาย อยู่ข้างชมพู่ คนขึ้นเขาได้ยินคนคุยกัน

เมื่อวันที่ 13 ก.ค.63 นางลิ้นจี่ (นามสมมติ) ชาวบ้านกกกอก เปิดเผยว่า มีคนในหมู่บ้านกกกอกลือกันว่า ในวันที่ชาวบ้านเจอศพของน้องชมพู่ จุดที่พบรองเท้าของน้องชมพู่ มีชาย 2 คนยืนอยู่ใกล้ระยะประมาณ 4 เมตร และป้าตุน คนที่เห็นรองเท้าของน้องชมพู่ได้ยินเสียงคล้ายกับชายปริศนา 2 คนยืนคุยกันอยู่จึงตกใจ ซึ่งชาวบ้านหลายคนเห็นแต่ไม่กล้าพูด

ต่อมานางตุนมา พรหมงอย ชาวบ้านที่พบรองเท้าอีกครั้ง โดยนางตุนมา ยืนยันว่าวันที่ 14 พ.ค.63 ที่ตนไปเจอรองเท้านั้น ได้ยินเสียงคนพูดคุยกันจริง แต่มองไม่เห็นคนพูด และไม่รู้ว่าต้นเสียงมาจากทางไหน และตอนที่ตนเจอรองเท้านั้นเป็นช่วงบ่าย

นางตุน ยังเล่าต่อว่า ส่วนบริเวณที่เจอศพน้องชมพู่นั้น ตนก็มองไปทางนั้นอยู่ แต่มองแบบผ่าน ๆ เพราะสายตาตนมองหาแต่ผักหวาน ซึ่งตนก็ไม่เห็นศพน้องชมพู่แต่อย่างใด เท่าที่จำได้ ตอนนั้นแดดก็ส่องลงพื้

นายสมบัติ บอกว่า ในเวลา 18.40 น. พบเจอศพเด็ก แต่ศพไม่สวมเสื้อผ้า นอนหงายกำมือ เห็นบาดแผลขีดข่วนตามลำตัว ไม่ได้สัมผัสศพเด็ก

ส่วนนายไชย์พล บอกว่า เวลาประมาณ 18.40 น. พบศพเด็ก แต่ศพไม่สวมเสื้อผ้า นอนหงาย เห็นบาดแผลตามร่างกาย นำเสื้อส่งให้เจ้าหน้าที่คลุมศพ

กรณีนางดอกไม้ (นามสมมติ) เป็นชาวบ้านที่ได้ค้นหาในวันที่ชมพู่หายตัวไป และเป็นคนรับโทรศัพท์สายปริศนาโดยสายดังกล่าวโทรเข้ามา ก็มีคนเรียกให้ตนมารับสาย ตนจึงไปรับสาย ตอนรับสาย ปลายสายก็แค่ ฮัลโหลๆ และเรียกชื่อ นุชๆๆ ตนก็บอกว่านุชไปรับลูกแถวบ้านกกตูม ไม่ได้เอาโทรศัพท์ไป

เสียงปลายสายเป็นเสียงผู้ชาย จากนั้นได้ยินเสียงเหมือนประมาณว่าลูกมึงหายหรอ ตอนนั้นเพื่อน ๆ ที่นั่งตรงแคร่ก็คุยกับตน โดยมีน้องคนหนึ่งนั่งข้าง ๆ ตน ได้ยินเสียงหัวเราะ คล้ายมีการเยาะเย้ย ซึ่งตนไม่ได้สนใจ แต่น้องที่นั่งข้าง ๆ ตั้งข้อสังเกตทำนองว่าหากรู้ว่าลูกเขาหายทำไมถึงหัวเราะออกมา ส่วนคนที่ได้ยินเสียงว่าคุยโทรศัพท์เรื่องอะไรกัน เพราะตนเปิดลำโพง

ต่อมานางนก (นามสมมติ) ชาวบ้านกกกอก ให้ข้อมูลกับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า ตำรวจได้ยินชาวบ้านเล่าต่อ ๆ กันมาว่า เมื่อเช้าวันที่ 12 พ.ค.63 หลังจากน้องชมพู่หายตัวไป 1 วัน มีสายปริศนาโทรมาหาแม่น้องชมพู่ และแม่น้องชมพู่ก็เป็นคนรับสายดังกล่าวด้วยตัวเอง

ในสายก็มีผู้ชายปริศนาพูดขึ้นมาว่า รู้หรือเปล่า ว่าเราเป็นใคร โดยพูดประโยคนี้ย้ำ 2 ครั้ง จากนั้นนางสาวิตรีแม่น้องชมพู่ก็ตอบว่า ฉันไม่รู้ว่าคุณคือใคร แต่คิดว่าคุณคงจะเป็นคนหนึ่ง ที่ช่วยตามหาน้องชมพู่ จากนั้นชายปริศนาจึงพูดต่อว่า ลูกไม่ได้หายหรอก เดี๋ยวมีคนเอามาคืน

โดยตนเองก็ไม่แน่ใจว่าสายของชายปริศนานี้ จะตรงกับสายที่โทรมาหาแม่น้องชมพู่ ในเวลาประมาณ 19.30 น. ของนางดอกไม้ (นามสมมติ) ที่รับสายหรือไม่ เพราะช่วงนั้นคนก็โทรมาหาแม่น้องชมพู่มาก ตนก็คิดว่าอาจเป็นพวกร่างทรงหรือไม่

ส่วนคำพูดที่ชายปริศนาพูดในสายว่า เดี๋ยวจะเอาน้องมาคืน ตอนนั้นตนก็ยังไม่แปลกใจอะไร เพราะหมอดูคนไหนก็จะพูดทำนองนี้ทั้งหมด แต่ในใจลึก ๆ ตนก็คิดว่า ชายปริศนาดังกล่าวไม่น่าจะเป็นคนร้าย และหลังจากเกิดเหตุแม่น้องชมพู่ก็ไม่ได้เล่าเหตุการณ์อะไรเกี่ยวกับสายโทรศัพท์ให้ตนและชาวบ้านฟังอีกเลย

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ