คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราช พูดแล้ว covid-19 ระบาดรอบ 2 ลั่น มีการกลายพันธุ์แล้ว 6 สายพันธุ์

คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราช พูดแล้ว covid-19 ระบาดรอบ 2 ลั่น มีการกลายพันธุ์แล้ว 6 สายพันธุ์

ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดี คณะแพทยศาสตร์ศิริราช กล่าวว่า โอกาสการเกิดระบาดระลอกที่2ในไทยสามารถเกิดขึ้นได้ เช่นเดียวกับหลายประเทศที่เกิดการระบาดระลอก 2 ทั้งนี้กรณีของทหารอียิปต์ที่จังหวัดระยองหรือกรณีครอบครัวคณะทูตซูดาน ในกรุงเทพ เป็นข้อบ่งชี้ที่ดีที่แสดงให้เห็นว่าคนไทยตื่นตัวต่อการรับข้อมูลข่าวสารและเป็นเหตุปัญจัยหนึ่งที่จะเป็น ช่องทางการแพร่ระบาดในประเทศ

แต่กรณีทั้ง 2 นี้ยังไม่พบการแพร่ระบาดต่อ ซึ่งถ้าหากคนไทยปฏิบัติตามมาตรการส่วนบุคคลอย่าฃเคร่งครัด ทั้งสวมหน้ากาก รักษาระยะห่าง เชื่อว่าโอกาสการติดเชื้อ แพร่ระบาดจะน้อยมากๆ แต่ถ้าหากเกิดความผิดพลาด พบผู้ป่วยในสิ่งสำคัญคือการเข้าควบคุมสถานการณ์ให้เร็ว จำกัดพื้นที่ จำกัดจำนวนคนที่เลี่ยง คนที่เกี่ยวข้องเพราะในขณะนี้หลายคนเริ่มผ่อนคลายมาตรการส่วนบุคลเพราะเห็นว่าไม่พบการติดเชื้อในประเทศต่อเนื่องกันเกิน50วัน ซึ่งจะเป็นจุดอ่อนที่จะทำให้โอกาสรับเชื้อสูงขึ้น

ทั้งนี้ ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ มองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั่นขอให้เป็นความผิดพลาดที่ไม่ควรมองว่าใครทำผิด แต่จะต้องมองไปข้างหน้าว่า เราทุกคนปฏิบัติตัวตามมาตรการการป้องกันโรคอย่างดีที่สุดแล้วหรือไม่ เพื่อตัวเองจะได้ปลอดภัย คนรอบข้างปลอดภัย ถึงจะเกิดการระบาดระลอก2 ก็จะไม่หนักหรือรุนแรงเหมือนในหลายประเทศ ขอให้อย่าตระหนกกันเรายังสามารถเดินหน้าไปได้ทั้งการควบคุมโรคและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ศ.นพ.ประสิทธิ์ อธิบายอีกว่า ตอนนี้ ทั่วโลกเต็มไปด้วยลูกไฟ คือมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพิ่มขึ้น และลูกไฟนี่เอง สามารถที่จะเข้าประเทศไทยได้ หากมีการหลุดลอดเข้าประเทศไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่สิ่งที่ไทยจะทำได้ คือ การควบคุมจัดการโรคให้ได้อย่างรวดเร็วเมื่อพบการแพร่ระบาด การจัดการโรคติดเชื้อต้องมองโลกทั้งใบ การเดินทางผ่านชายแดน ยิ่งการเดินทางผ่านชายแดนด้วยเท้าเปล่า มีโอกาสเป็นไปได้สูง หากมีการหละหลวมในการคุมเข้ม มาตรการคุมโรค และมาตรการสาธารณสุข โดยสิ่งที่เราทำอยู่ขณะนี้ต้องเข้มงวด การใส่หน้ากากอนามัยฯ ล้างมือบ่อยๆ คือสิ่งสำคัญ รวมถึงการเช็คอิน เช็คเอาท์ ตามสถานที่ต่างๆ มีส่วนสำคัญที่ทำให้ภาครัฐสอบสวนโรคได้ง่ายขึ้น

ทั้งนี้ เชื้อว่าการระบาดรอบ2จะสูงไม่มาก หากทุกคนช่วยกัน ถึงแม้ว่าประเทศไทย จะไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศรายใหม่ แต่อยากให้คนไทยมองเหรียญ2ด้าน หากมีคนใดคนหนึ่งติดเชื้อโควิด-19 แต่เขาแข็งแรงดี มีการใส่หน้ากากฯ ล้างมือบ่อยๆ มีระยะห่าง ต่อให้มีการแพร่เชื้อ การแพร่เชื้อสู่คนอื่นจะน้อยมาก แต่หาก ถอดหน้ากากฯ ไม่มีการปฏิบัติตัวด้านสาธารณสุข เชื้ออาจสามารถแพร่กระจายได้ ซึ่งการบริหารจัดการความเสี่ยง หากเจอเสี่ยงที่ไหน ควบคุมปิดที่นั้น เพื่อทำให้การแพร่รับาดอยู่ในวงจำกัด และทำให้กิจการประเภทอื่นสามารถดำเนินต่อไปได้

ย้ำว่า หากคนติดเชื้อจำนวนมากกลับมาอีกครั้ง แล้ว รัฐดำเนินการควบคุมช้า จะทำให้คุมการแพร่ระบาดยาก เนื่องจากยังไม่มีวัคซีน และยังต้องนำเข้ายารักษาโควิด-19อยู่ อย่างไรก็ตาม มีความกังวล ในการเข้าผ่านช่อ ทางธรรมชาติ เนื่องจากยังมีการแอบเข้ามา และไม่มีการคัดกรอง เฝ้าระวังโรค ซึ่งคนกลุ่มนี้อาจจะมีเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ ซึ่งอาจจะแพร่เชื้อได้ โดยขอย้ำให้ผู้ประกอบการ ที่จะรับแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงาน ต้องคัดกรอง ตรวจเช็คเข้าสู่ระบบการสอบสวนโรคให้เป็นทางการ ทั้งนี้ ศ.นพ.ประสิทธิ์ มองว่า ในการควบคุมโรคระบาด ไม่อยากให้มีข้อยกเว้นใดๆทั้งสิ้น กับกลุ่มที่จะเดินทางเข้าประเทศไทย

ขอบคุณที่มาจาก กรุงเทพธุรกิจ

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ