จากกรณีน้องชมพู่ อายุ 3 ปี สูญหายจากบ้านพักพัก หมู่ 2 บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง โดยหายไปตั้งแต่ 11 พ.ค.63 ซึ่งครอบครัวเร่งออกค้นหาจนมึดค่ำ จนกระทั่งพบศพน้องอยู่กลางป่าในภูเหล็กไฟ วันที่ 14 พ.ค. 63 แต่ยังไม่สามารถจับคุมคนร้ายที่คาดว่าก่อเหตุได้ อีกทั้งมีบาดแผลที่สังคมตั้งข้อสงสัยนั้น

น้องชมพู่

ล่าสุด 20 ก.ค. 63 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก จักรี แบ่งปันรอยยิ้มคนพเนจร (ทีม ลุงพล น้องชมพู่ต้องไม่ตายฟรี) โพสต์ข้อความเกี่ยวกับคดีของ น้องชมพู่ ว่า ลองคิดแบบความเป็นจริงนะครับถ้าแม่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรกับน้อง

แม่คงไม่ให้น้องสะดิ้งโกหกว่านอนหลับ อีกข้อถ้าแม่ไม่รู้อะไรคงไม่เตรียมกระเป๋าฝากขึ้นไป ยังมีอีกข้อครับ ถ้าแม่ไม่รู้แม่จะกลัวว่าจะเกิดอันตรายทั้งครอบครัวและขอตำรวจติดกล้องวงจรปิดรอบบ้านทำไมครับ

ลองคิดดูแม่อาจโดนคนมีสีมีอิทธิพลข่มขู่ให้หาแพะมารับแทนไม่ยังงั้นแม่ไม่จ้องที่จะสงสัยลุงพลคนเดียวเพื่อจะให้เป็นแพะเพราะพยานหรือข้อสงสัยต่างๆที่ชาวบ้านพูดกับนักข่าว แม่จะหาข้อโต้แย่งตลอด สรุปครอบครัวนี้รู้ว่าใครทำแต่ไม่ยอมบอกความจริง

ถ้าไม่รีบเผาศพ ก็น่าจะจับคนร้ายได้แล้ว สืบตอนนี้ก็หลายข่าวหลายทาง มันเหมือนยิ่งสืบยิ่งไม่มีประโยชน์ เอาจริงเวลามีคนตายโดยไม่ทราบสาเหตุการตายที่แน่ชัด แล้วญาติไม่ยอมจะตามหาคนร้าย มีที่ไหนที่เขาจะรีบเผาศพ ยังไงก็ต้องเก็บรอหาหลักฐานก่อนสิ แต่นี้เผาไปแล้วจะเอาหลักฐานไหนมา

ขอบคุณที่มาจาก จักรี แบ่งปันรอยยิ้มคนพเนจร