แม่น้องชมพู่ รีบกลับไปที่บ้าน หลังเจอเสื้อสีส้มซุกใต้ขอนไม้ ควักเสื้อส้มให้ดู ทั้งที่ก่อนหน้าพ่อบอกทิ้งไปตั้งนานแล้ว

แม่น้องชมพู่ รีบกลับไปที่บ้าน หลังเจอเสื้อสีส้มซุกใต้ขอนไม้ ควักเสื้อส้มให้ดู ทั้งที่ก่อนหน้าพ่อบอกทิ้งไปตั้งนานแล้ว

จากกรณีการเสียชีวิตปริศนาของ น้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ เหตุเกิดที่บ้านกกกอก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 63 กระทั่งไปพบศพกลางป่าบนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้าน 5 กม. ขณะที่ตำรวจกำลังเร่งหาหลักฐานเพื่อตรวจหาDNAแฝงแต่ผ่านไปเดือนกว่าแล้วก็ยังไม่สามารถคลี่คลายคดีได้

ต่อมา มีรายงานว่า ชาวบ้านที่มาเก็บหน่อไม้ช่วงเช้า พบผ้าสีส้ม ลักษณะคล้ายเสื้อสีส้มและแถบขาว ที่บริเวณใต้กอไผ่ติดกับร่องน้ำห้วยบุ่งใกล้กับสวนยางชาวบ้าน บ้านกกกอก โดย ตร.สภ.กกตูม เข้าตรวจสอบ สภาพคือผ้าสีส้มซุกอยู่ใต้ขอนไม้ใกล้กับกอไผ่และใกล้กันยังพบเศษผ้าคล้ายเสื้อสีขาวตกอยู่ใกล้กัน ซึ่งจุดนี้ไม่เคยมีใครเข้ามาค้นหาหลักฐานมาก่อน

ทางด้าน นางสาวิตรี และ นายอนามัย วงศ์ศรีชา พ่อแม่น้องชมพู่ เปิดเผยว่า เสื้อดังกล่าวมีลักษณะคล้ายเสื้อที่แจกกับรถไถ แต่ไม่แน่ใจว่าของใคร และมีลักษณะเก่าแล้วจน ไม่น่าจะมีใครนำมาซุกซ่อนไว้ แต่ไม่รู้ว่ามาจากไหน ซึ่งบริเวณนี้ใกล้จุดร่องน้ำ หากฤดูฝนน้ำจะไหลผ่าน แต่ช่วงที่น้องหายคือน้ำแห้ง ไม่รู้ว่าเสื้อนี้มาจากไหน ถ้าหากมีคนมาซุกไว้ ไม่น่าจะเป็นไปได้ และถือว่านี่คือหลักฐานสำคัญอย่างหนึ่งเลยทีเดียว

ขณะที่ชาวเน็ตก็มีการนำภาพเสื้อที่มีการซุกใต้ขอนไม้ มาเทียบกับเสื้อของพ่อที่ถ่ายไว้ตอนเกี่ยวข้าว

คอมเม้นท์โซเชียล

เต็มๆ

ล่าสุด ในเฟซบุ๊ก พันธนะ ไชยช่อฟ้า โพสต์ข้อความระบุว่า พบเสื้อส้มในกอไผ่ หลักฐานชิ้นสำคัญ จับพิรุธพ่อน้องชมพู่ ก่อนหน้านี้คุณพ่อบอก เสื้อสีส้มของผมใช้มานานแล้วเก่าแล้ว ได้ทิ้งไปตั้งนานแล้ว

คุณแม่บอก เสื้อยังอยู่ที่บ้านไม่ได้ไปใหน

นักข่าวถามพ่อในที่เกิดเหตุที่พบเสื้อ ว่า ใช่เสื้อของคุณพ่อไหม ?

พ่อมองจ้องไปจ้องมาที่เสื้อ และไม่มีคำตอบให้นักข่าว

นักข่าวถามแม่ แม่บอกอย่างรวดเร็วว่า เสื้อนี้เป็นเสื้อรถไถ เป็นเสื่อคูโบต้า ได้มากจากการซื้อรถไถ หรือ จ่ายค่างวดรถไถ บอกว่าเสื้อนี้ถือเป็นหลักฐานที่น่าสนใจ

เอ๊ะ ทำไมรู้ไปหมด

และรีบพานักข่าวกลับไปที่บ้าน เพื่อไปดูเสื้อสีส้มที่อยู่ที่บ้านอีกตัว เพื่อยืนยันว่า ไม่ใช่เสื้อของพ่อชมพู่นะ

ขณะที่ นายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถุง กรณีการขอให้ตรวจสอบการใช้หลักการทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้องในการสืบสวนสอบสวนคดีน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่เสียชีวิตปริศนาบนภูเหล็กไฟ เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีนายบุญช่วย น้อยสันเทียะ รองผู้ว่าฯ มุกดาหาร และ พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ให้การต้อนรับ ร่วมให้ข้อมูลทางคดี

นายสิระ กล่าวว่า เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งตำรวจ พ่อแม่น้องชมพู่ ชาวบ้านกกกอก และตัวน้องชมพู่เอง ซึ่งถูกสื่อมวลชนบางส่วนนำไปหาผลประโยชน์ ส่วนชาวบ้านจะได้รับผลกระทบถูกละเมิดสิทธิ์ ทั้งจากเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชนอย่างไรบ้าง จะรับฟังความคิดเห็นในช่วงบ่าย  ทั้งนี้ จากการฟังแพทย์นิติเวชของโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี และโรงพยาบาลตำรวจ ไม่ได้มีความขัดแย้งกัน แต่ทางคณะกรรมาธิการฯ ได้พูดคุยกันว่าจะต้องมีการปฏิรูปด้วยการให้มีคณะกรรมการที่รับรองโดยแพทยสภา ร่วมตรวจสอบผลการชันสูตร เพื่อเป็นประโยชน์ในการคลี่คลายคดีฆาตกรรมมากยิ่งขึ้น 

นายสิระ ยังพูดถึงกรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ที่นำใบชันสูตรศพน้องชมพู่มาเปิดเผย และระบุมีการตีลงโทษทรมานเด็กอย่างสาหัสว่า ดูแล้วผิดกฎหมายหลายมาตรา ซึ่งมีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ไปแจ้งความแล้ว อยากให้ทุกคนคิดถึงน้องชมพู่ให้มากที่สุด เพื่อให้น้องจากไปอย่างสงบและเป็นธรรม ไม่อยากเห็นใครมาโหนกระแสแบบนี้ คนที่พูดได้ดีที่สุดคือแพทย์ นายอัจฉริยะเคยถูกดำเนินคดีหลอกลวงชาวบ้าน ถือเป็นโมฆะบุรุษ ฝากถามว่ายังมีความน่าเชื่อถืออยู่อีกหรือไม่ ให้สังคมช่วยกันตัดสิน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ