ลุงพล ยอมบอกแล้ว คนที่ตัดสายสิญจน์น้องชมพู่ หลังเจออยู่กับพ่อแม่

ลุงพล ยอมบอกแล้ว คนที่ตัดสายสิญจน์น้องชมพู่ หลังเจออยู่กับพ่อแม่

กรณีพ.ต.อ.ชัชชัย วงศ์สุนะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร ให้ข้อมูลว่า กางเกงก็พบวันที่ขึ้นมาเจอศพตั้งแต่วันแรก วันรุ่งขึ้นจึงขึ้นมาเห็นหลักฐานเอาเครื่องจับอินฟราเรดมาตรวจ พบเส้นผมและเส้นขนข้างศพน้องชมพู่ และไปตรวจจุดที่พบกางเกง ก็เจอเส้นขนวางใต้กางเกงอีก 1 เส้น เราก็เอาไปตรวจหมดเพื่อเชื่อมโยง จึงเป็นเหตุผลของการตรวจ DNA ของคนทั้งหมู่บ้าน 

ภาพจาก amarintv

ล่าสุดวันที่ 23 ก.ค.63 นางปิ่น (นามสมมติ) ชาวบ้านกกกอก โดยนางปิ่น ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า กรณีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ตนเชื่อว่าคนร้ายมีการจัดฉากการตายของน้องชมพู่ ให้สภาพศพน้องชมพู่เหมือนกับเด็กที่ถูกข่มขืน แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ชันสูตรแล้ว น้องชมพู่ก็ไม่ได้ถูกข่มขืนแต่อย่างใด

ที่ตนแปลกใจอีกประเด็นหนึ่ง ว่าทำไมกางเกงที่เจออยู่ไม่ไกลจากศพน้องชมพู่ ทำไมถึงไม่มี DNA ของคนร้าย หรือคนร้ายอาจสับเปลี่ยนกางเกงน้องชมพู่ ซึ่งถ้าน้องชมพู่ถอดกางเกงเอง จะต้องม้วนพันเป็นเลขแปด หรือมีรอยฉี่ มีเหงื่อติดอยู่ที่กางเกงบ้าง แต่กางเกงน้องชมพู่กลับไม่มีคราบอะไรเลย ซึ่งถ้าคนร้ายจัดฉากจริง ๆ ตนก็ถือว่าทำแนบเนียนมาก ๆ และตนก็คิดว่าคนร้ายมีมากกว่า 1 คนอีกด้วย

ภาพจาก amarintv

สำหรับทุกวันนี้ที่ยังจับคนร้ายไม่ได้ ตนก็ยังหวาดระแวงในการใช้ชีวิต อยากให้จับคนร้ายได้เร็ว ๆ ส่วนถ้ามีการพักคดีขึ้นมาจริง ๆ ตนก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ

สภาพร่างกายของน้องชมพู่ท่อนบน ได้แก่ สะโพกมีรูบุบ แผ่นหลังพบรอยขีดข่วน ปาก,รูจมูก,หู มีหนอนซอนไซ กระจกตาดำทั้ง 2 ข้างแห้งและเริ่มขุ่น ริมฝีปากเป็นสีม่วง มีสายสิญจน์พันที่ข้อมือขวา

นายไชย์พล วิภา ลุงของชมพู่ กล่าวว่า ตนเคยเห็นน้องชมพู่ผูกแขน โดยจะมีหวายมงคลผูกไว้ด้วย หากจำไม่ผิดน่าจะเป็นมือขวา ลักษณะเก่า ตนทราบแค่ว่าครอบครัวน้องผูกให้ตามความเชื่อว่าจะป้องกันอันตราย

ภาพจาก amarintv

ทั้งนี้ตนไม่แน่ใจช่วงเวลาที่ผูก เท่าที่จำได้ก็เห็นผูกมาตลอด ตนยังเห็นมีสายสิญจน์อยู่ในวันที่พบศพชมพู่ โดยตนเข้าใจว่าพิสูจน์หลักฐานเป็นคนตัดสายสิญจน์ของน้อง แต่ตนไม่เห็นกับตา มาเห็นอีกทีก็ตอนที่พิสูจน์หลักฐานเอาใส่ถุงหูหิ้ว พร้อมกับสร้อยพระของชมพู่เอามามอบให้กับตน ซึ่งตนจับแต่ถุง ไม่ได้จับของด้านใน จากนั้นตนก็เอาลงมาให้ข้างล่าง โดยนางนลินรับไป และจับสร้อยดู จากนั้นน่าจะนำไปให้ครอบครัวชมพู่ ซึ่งตรงนี้ตนไม่แน่ใจ

แต่สายสิญจน์ตนไม่เห็นว่ามันขาด ตนได้ยินแต่พิสูจน์หลักฐานคนหนึ่ง รูปร่างอ้วนเป็นคนเดียวที่ใกล้ตัวน้องชมพู่ และเอาของมายื่นให้กับตน

นายชาญ หลาบโพธิ์ ตาของน้องชมพู่ เปิดเผยว่า สำหรับเชือกด้ายที่อยู่ที่มือน้องชมพู่นั้น เป็นฝ้ายมงคลที่รับมาจากพระ แต่ตนก็จำไม่ได้ว่าได้มาจากพระรูปไหน ซึ่งได้นำมาให้น้องชมพู่หลายปีแล้ว เพราะตายายและพ่อแม่ผูกแขนให้น้องชมพู่เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งตนจำได้ว่าเป็นด้าย 7 สี แต่ไม่แน่ใจว่าอยู่ข้อมือข้างไหน อย่างไรก็ตาม สำหรับด้ายที่อยู่ที่มือน้องชมพู่นั้นเป็นของติดตัวของน้องชมพู่ทั้งหมด ไม่ใช่ของคนร้าย

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ