จาก กรณีของนักร้องลูกทุ่งสาวอินดี้ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ที่ตอนนี้คนไม่ได้สงสัยแค่ค่าตัวของนักร้องหนุ่มคู่กรณีอย่าง เก้า เกริกพล เพียงคนเดียวแล้ว แต่ยังลามไปถึงนักร้องในค่ายของเจนนี่ด้วยว่าได้ค่าตัวกันคนละเท่าไร

ต่อมาเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2563 สาวเจนนี่ ก็ได้ไลฟ์ชี้แจงดังนี้ ในกรณีสัญญาใจ 70/30 ไม่เคยมี ยืนยันว่าไม่เคยโกงค่าตัวใคร สัญญาใจ 70/30 ที่น้องเก้าพูดถึงนั้นไม่มีจริง แต่เป็นข้อเสนอที่ตนเสนอให้น้องเก้าว่า ถ้าน้องมาอยู่ค่ายเพลงของตน ตนจะมีส่วนแบ่งในการทำเพลงและยอดวิวจากเพลงให้ รวมทั้งเพลงเลิกคุยทั้งอำเภอฯ ก็จะแบ่งให้น้องเก้า 30% ลิลลี่ 30% และตนซึ่งเป็นเจ้าของค่าย 40% เป็นค่าลงทุนต่าง ๆ

เก้า เกริกพล

ล่าสุด อั๋น ปาลิตา อีกหนึ่งศิลปินในสังกัดได้หมดถ้าสดชื่น ออกมาเปิดใจ ถึงเหตุผลหลักที่ลาออกเป็นเพราะตั้งแต่อยู่ในค่ายมา 3-4 เดือนไม่มีงาน ทำให้ไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม ทั้งที่ปกติก่อนหน้านี้รับงานจ้างร้องเพลงเองได้คืนละ 2,000 ถึง 4,000 บาท แต่ในช่วงที่มาอยู่ในค่าย ให้ต้นสังกัดรับงานให้ หรือพอมีคนโทรมาจ้างงานก็จะส่งต่อให้ทางค่ายตลอด แต่ปรากฏว่างานเงียบหายไปไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกัน อีกเหตุผลคือส่วนตัวเรียนอยู่ที่ จ.นนทบุรี แต่ค่ายอยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช ทำให้ต้องเดินทางไป ๆ กลับ ๆ และต้องออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางเองทั้งหมด รวมถึงที่ตัดสินใจไม่เซ็นสัญญากับทางค่ายเพราะมีสัญญาผูกมัด 4 ปี กลัวว่าหลังเซ็นสัญญาไปแล้วไม่มีงานจะยิ่งลำบาก

อั๋น ยังยืนยันว่าได้บอกกับ เจนนี่ ก่อนที่จะออกแล้ว ซึ่งตัว เจนนี่ ก็อวยพรขอให้โชคดี ส่วนตัวขอขอบคุณทุกอย่างที่ทำให้มีวันนี้ ส่วนซิงเกิล ได้หมดถ้าสดพอ ที่เพิ่งปล่อยออกมาช่วงปลายเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ตนไม่เสียดายเพราะยังไม่เคยได้รับเงินจากค่ายอดวิวเลย ซึ่งเจนนี่บอกว่าตนจะไม่ได้ค่ายอดวิวจากเพลงนี้ เนื่องจากไม่ได้เซ็นสัญญานั่นเอง ถ้าเซ็นจะได้ส่วนแบ่ง 70/30 แต่อนุญาตให้เอาเพลงไปร้องได้

ทั้งนี้ ส่วนงานรีวิวสินค้าทางค่ายเคยรับให้ 2 งาน แต่ได้ส่วนแบ่งแค่งานละ 300 บาทเท่านั้น ตนไม่เคยถามราคารีวิวเต็ม ค่ายให้เท่าไหร่ก็รับ ออกปากเป็นความอึดอัดใจอย่างหนึ่งในการทำงาน

ยอมรับ เรื่องเงิน ก็เป็นเหตุผลหลักทำให้ออกจากค่าย ด้านหนุ่ม เบ บอล ที่ลาออกอีกคน เธอก็บอกเพียงว่า คงมีเหตุผลคล้าย ๆ กัน

เรียบเรียงโดย siamtop