เรียกได้ว่าทำเอาแฟนๆ ตกใจกนหนักมากเลยก็ว่าได้ หลัง หนุ่ม ศรราม ได้ออกมาโพสต์ภาพใบหย่า ที่หย่าขาดกับภรรยา พร้อมทั้งได้ระบุข้อความว่า เนื่องจากในระยะ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมามีบุคคลมาตามหาคุณติ้กที่บ้านและโทรศัพท์มาหาผมหลายครั้ง ซึ่งผมเองก็ทำงานเกือบทุกวัน จึงขอความกรุณาผู้ใดก็ตามที่ได้ทำสัญญาหรือทำธุรกรรมทางด้านการเงินหรือด้านต่างๆ กับคุณ ติ้ก กนิษฐ์รินทร์ พัชรภักดีโชติ ช่วยติดต่อกับคุณติ้กโดยตรงและไม่ต้องมาที่บ้านผมกับลูก เพราะผมกับลูกไม่ทราบเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น

โพสต์ดังกล่าว

ซึ่งหากย้อนกลับไปหลายเดือนที่ผ่านมา ครอบครัวเทพพิทักษ์ มีปัญหาเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ หลายครั้ง โดยครั้งหนึ่ง หนุ่ม ศรราม ได้ขั้นขึ้นโรงพักลงบันทึกประจำวัน หลังเงินในบัญชีธนาคารถูกโอนเมื่อวันวันที่ 14 มกราคม 2563 ถึง 5 ครั้ง เป็นจำนวนเงิน 450,000 บาท

ก่อนที่ต่อมาธนาคารจะออกมาชี้แจงว่า คนที่กดเงินออกไปเป็นคนใกล้ตัว ซึ่งคนที่ถูกพุ่งเป้ามากที่สุดคือภรรยา แต่เรื่องนี้ได้ถูกปล่อยให้เป็นเพียงข้อสงสัยและเงียบหายไป ต่อมากลายเป็นประเด็นอีกครั้งหลังจากที่ อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ นำผู้เสียหายเข้าจ้งความว่าถูก ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ โกงเงินมัดจำ 9 แสนบาท หลังสั่งหน้ากากอนามัยจำนวน 2 แสนชิ้น

ก่อนที่ หนุ่ม ศรราม จะออกมาชี้แจงผ่านการไลฟ์สดว่า ไม่เป็นความจริง ที่ผ่านมาติดต่อคู่กรณีไม่ได้ และขอให้มาเอาเงินคืนไป ยืนกรานว่าครอบครัวไม่ได้ทำสิ่งผิดกฎหมาย หลังเคลียร์เงินกันไปคู่กรณีก็ถอนแจ้งความ ไม่ติดใจและจากเหตุการณ์ก็ได้ทราบว่า หนุ่ม ศรราม ได้หย่าภรรยา ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ และทั้งคู่ออกมายอมรับว่าเป็นการหย่าเพื่อแก้เคล็ดเท่านั้น

ต่อมา หนุ่ม ศรราม ก็ได้โพสต์คลิปเสียงค่ามัดจำค่าตัวที่ ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ ให้โอนเข้าบัญชตนเอง จำนวน 55,000 บาท โดยไม่ได้แจ้งให้อดีตสามีทราบ รวมถึงทองที่คุณพ่อ มอส ปฏิภาณ ซื้อให้เพื่อรับขวัญหลาน น้องวีจี ที่คุณพ่อ หนุ่ม ศรราม แจ้งว่าทองหมดไปแล้วเหลือเพียงล็อกเก็ตที่ไปตามซื้อคืนมาได้และสัญญาจะเก็บรักษาอย่างดี

ทั้งนี้ ติ๊ก ยังได้เปิดใจผ่านรายการดังว่า ก่อนที่จะตัดสินใจใช้ชีวิตคู่กับ หนุ่ม ศรราม ก็มีหนี้ราวๆ 300,000 บาท จากการไปยืมเพื่อนเพื่อมาฝากประจำรายปี ซึ่งส่วนนี้อดีตสามีก็รับทราบ และได้ชดใช้ให้แทนอีกด้วย

เรียบเรียงโดย siamtopic