ต้นตำหรับ ยืนยัน หากลูกค้าเน้นของเเพง ก็ไม่มีนโยบายคิดเงินเพิ่ม

ต้นตำหรับ ยืนยัน หากลูกค้าเน้นของเเพง ก็ไม่มีนโยบายคิดเงินเพิ่ม

กรณีร้านชาบูนางในสาขาพระราม 9 ซอย 43 หลังขอคิดเงินลูกค้าเพิ่มจากราคาเดิม 349 เป็น 549 บาท เหตุกินแต่เนื้อและกุ้งลวก จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักบนโลกโซเชียล

ล่าสุด นายน้อย ลุงกอ ผู้ช่วยเจ้าของแฟรนไชส์ชาบูนางใน กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เมื่อผู้รับแฟรนไชส์ซื้อแฟรนไชส์ไปแล้วแต่ละสาขาก็จะต้องบริหารจัดการเอง โดยที่เจ้าของแฟรนไชส์ จะอนุญาตให้ผู้รับได้ใช้สิทธิ์ในเรื่องของ ป้ายสัญลักษณ์ร้าน และชื่อร้านรวมถึงถ้าหากมีความต้องการที่จะมาเรียนรู้สูตรการทำธุรกิจ ก็สามารถมาเรียนได้ที่ร้านต้นตำรับ โดยที่แต่ละร้านจะต้องไปบริหารงบประมาณและความคุ้มทุนกันเอาเอง

กรณีที่เกิดขึ้นตนมองว่าอาจจะมีผลกระทบต่อแบรนด์ของชาบูนางใน รวมถึงสาขาอื่นๆ ดังนั้นก็อยากให้ลูกค้าเข้าใจว่าเหตุที่เกิดมาจากสาขาไหน ตามหลักลูกค้าที่เข้ามาทานบุฟเฟ่ต์นั้นคือใครอยากจะรับประทานอะไรก็ตามใจชอบ สั่งเท่าไหร่ก็สุดอยู่ที่ลูกค้าจะอิ่มเท่านั้น พร้อมยืนยันว่าทางชาบูนางในไม่มีนโยบายให้เก็บเงินลูกค้าเพิ่มหากว่ามีการรับประทานอาหาร ในส่วนที่เป็นราคาสูง

เมื่อถามว่าตัวร้านต้นตำรับจะเข้าไปทำความเข้าใจกับร้านที่มีปัญหาอยู่ในขณะนี้หรือไม่ นายน้อยตอบว่า ตนยังไม่แน่ใจเพราะว่าต่างคนก็ต่างความคิด บางทีขณะนั้นทางร้านอาจจะยังคิดเฉลี่ยไม่ทัน และแต่ละสาขาก็มีสิทธิ์ที่จะบริหารจัดการกันเองตั้งแต่ราคาและโปรโมชั่นต่างๆ ทั้งนี้ตนมีความเป็นห่วงกับสาขาที่อยู่ใกล้เคียงในซอยพระรามเก้า 41 ซึ่งไม่ใช่เจ้าของเดียวกันกับสาขาที่กำลังเป็นประเด็น ว่าจะได้รับผลกระทบเนื่องจากลุงเจ้าของมีปัญหาด้านสุขภาพอยู่ด้วย

อย่างไรก็ตามทาง ชาบู ชาบู นางใน กัลปพฤกษ์ ก็ได้มีการโพสต์เพื่อปกป้องชื่อเสียงของต้นตำหรับ

ขอบคุณ one31

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ