มาแน่ เปิดพื้นที่สีแดง 3 พายุ ต่อแถวเข้าถล่มรัวๆ

มาแน่ เปิดพื้นที่สีแดง 3 พายุ ต่อแถวเข้าถล่มรัวๆ

วันนี้ (12 ตุลาคม 2563) เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า เมื่อเวลา 04.00 น. พายุดีเปรสชันระดับ 2 หลิ่นฟา ที่มีรายงานตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม ที่ผ่านมา ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันระดับ 1 บริเวณเมืองอัตตะปือ ประเทศลาว แล้ว ทำให้ด้านตะวันออกและตอนล่างของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดมุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา

สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ในช่วงวันที่ 11-12 ตุลาคม 2563 มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้

ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือขนาดเล็กงดการเดินเรือ

อนึ่ง พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุระดับ 3 (โซนร้อน) ในระยะต่อไป คาดว่า จะเคลื่อนเข้าใกล้เกาะไหหลำในช่วงวันที่ 13-14 ตุลาคม 2563

นอกจากนี้ นายชวลิต จันทรรัตน์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Chawalit Chantararat ระบุว่า พายุที่จะพัดผ่านเข้าประเทศไทยในช่วง 11- 20 ตุลาคม 2563 มี 3 ลูก ดังนี้

1. หลิ่นฟา

วันที่ 11 ตุลาคม 2563 ก่อตัวที่ฝั่งทะเลจีนใต้ ขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนาม ทำให้ฝนตกหนักถึงหนักมากที่เมืองดานังและพื้นที่ใกล้เคียง

วันที่ 12 ตุลาคม 2563 ทำให้ฝนตกหนักในพื้นที่ประเทศลาวตอนใต้ ที่เมืองอัตตะปือ เซกอง จำปาสักและปากเซ ส่วนประเทศไทยได้รับผลกระทบฝนตกปานกลางที่อุบลราชธานี ศรีสะเกษ และมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นทั่วไป ทั่วทั้งภาคอีสาน

วันที่ 13 ตุลาคม 2563 ทำให้ฝนตกเพิ่มมากขึ้นโดยทั่วไปในภาคกลาง และภาคอีสาน

2. พายุดีเปรสชัน ลูกที่ 16 คาดว่าจะมีการก่อตัวของพายุดีเปรสชันขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นลูกที่ 16 ของปีนี้

วันที่ 12 ตุลาคม 2563 คาดว่าจะก่อตัวขึ้นในทะเลจีนใต้ โดยจะเคลื่อนที่ไปทางตะวันตก

วันที่ 13 ตุลาคม 2563 คาดว่า จะเคลื่อนที่ผ่าน ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมาก ที่เกาะไหหลำ

วันที่ 14 ตุลาคม 2563 ขึ้นฝั่งเวียดนาม ทำให้ฝนตกหนักที่เมืองดองฮอย และพื้นที่ใกล้เคียง ฝนตกหนัก ถึงหนักมาก ที่เมือง Thanh Hao และ Vinh

วันที่ 15 ตุลาคม 2563 ฝนตกหนักถึงหนักมาก ในพื้นที่ตอนกลางของลาว โพนสะหวัน เวียงจันทน์ . . ฝนตกปานกลางที่ นครพนม บึงกาฬ อุดร ฝนตกมากเพิ่มขึ้นทั่วภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคกลาง ภาคตะวันตก เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และภาคใต้

3. พายุดีเปรสชันลูกที่ 17

วันที่ 13 ตุลาคม 2563 คาดว่าจะมีการก่อตัวขึ้น ในมหาสมุทรแปซิฟิก ติดชายฝั่งฟิลิปปินส์ อาจจะเป็นลูกที่ 17 ของปีนี้ โดยจะเคลื่อนที่ไปทางตะวันตก

วันที่ 14 - 15 ตุลาคม 2563 จะทำให้ฝนตกหนักถึงหนักมากที่กรุงมะนิลา และพื้นที่ใกล้เคียง แล้วเคลื่อนที่ลงสู่ทะเลจีนใต้และเคลื่อนที่ทางทิศตะวันตก

วันที่ 17 ตุลาคม 2563 ขึ้นฝั่งเวียดนาม ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากที่เมือง Tuy Hoa, Qui Khon, ญาจาง ฝนตกหนักถึงปานกลาง ที่เมืองตามชายฝั่งทะเลตั้งแต่ เมืองดานัง ถึง เมือง Qui Khon

วันที่ 18 ตุลาคม 2563 เคลื่อนที่เข้าไปในกัมพูชา ทำให้ฝนตกหนักถึงหนักมาก ที่เมืองสตึงเต็ง และฝนตกปานกลางในพื้นที่ทั่วกัมพูชา

วันที่ 19 ตุลาคม 2563 ทำให้เกิดฝนตกหนักที่ ตราด และประจวบคีรีขันธ์ และฝนตกปานกลาง ในพื้นที่อิสานตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่าง รวมถึง กทม. และปริมณฑล

วันที่ 20 ตุลาคม 2563 ทำให้ฝนตกปานกลางที่ ตราด ประจวบคีรีขันธ์ และมีฝนตกเพิ่มขึ้นในพื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่าง รวมถึง กทม. และปริมณฑล

ทั้งนี้ การเรียกชื่อพายุนั้นอ้างอิงจาก รายชื่อ 140 พายุ ที่ตั้งตามชื่อของแต่ละประเทศในแถบมหาสมุทรแปซิฟิกตอนบนกับทะเลจีนใต้ 14 ประเทศ จากเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งปัจจุบันพายุที่หอบร่องฝนพาดผ่านประเทศไทยนั้น คือ หลิ่นฟา ซึ่งลำดับต่อไปก็จะเป็น นังกา, เซาเคโลร์ ตามลำดับ

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ