ลุงพล เล่านาทีฉุน

ลุงพล เล่านาทีฉุน

เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา (19 ม.ค.) นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ให้สัมภาษณ์ทางรายการเอาให้ชัด ทางสถานีโทรทัศน์ช่องวัน 31 ว่า ภาพที่ออกไป ตนแค่ขอถือไมค์จากน้องฟ้า ผู้สื่อข่าวอมริมทร์ เพราะเคยถือประจำ ไม่ได้คิดอะไร กับน้องฟ้าสนิทกัน เคยมาทำข่าวที่บ้านกกกอก หลายเดือน ไม่มีเรื่องไม่พอใจ ส่วนที่ว่า ดูเหมือนควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่นั้น สิ่งที่เกิดขึ้นมีทั้งประเด็นที่สำนักสงฆ์ภูหลวง มีนักข่าวมาถามตลอดว่า ค่าใช้จ่ายมีอะไรไปบ้าง ตนบอกว่า ให้เทพื้นที่เสร็จก่อน แล้วจะแถลง เชิญสื่อทุกสำนัก ใครอยากรู้ว่าการใช้จ่ายเงินอะไรไปบ้าง ทั้งนี้ได้คุยทีมข่าวหลายสำนักทางหลังไมค์ว่า ประเด็นที่ตอบได้ก็จะตอบ หากตอบไม่ได้ก็จะไม่ตอบ

ไม่มีการบีบ น้องฟ้า ยืนยันจากปากผมได้ แค่เอามือไปจับแมสก์ อยากเห็นหน้าเต็มๆแค่นั้นว่า น้องฟ้ายังรู้สึกดีกับผมหรือไม่ กับพี่ติไทยรัฐ ก็เดินเข้าไปหา ส่วนที่น้องฟ้า แจ้งความดำเนินคดีก็น้อมรับ อยากขอโทษกับสิ่งที่ทำไปมันเกินเหตุ ถ้าน้องฟ้าเปิดโอกาส" ลุงพล กล่าวย้ำ

ต่อข้อถามที่ว่า ทำไมความสัมพันธ์กับสื่อมวลชนทำไมถึงขาดสะบั้นนั้น ลุงพล กล่าวว่า วันที่มีภาพออกไปว่า ตนนั่งกดโทรศัพท์มือถือ ไม่คุยกับนักข่าวช่องใหญ่ มีนักข่าวมาถามว่า ประเด็นที่ไม่คุยกับสื่อนั้นจริงหรือไม่ ทั้งที่ได้คุยกันหมดแล้วว่า ถ้าประเด็นไหนตอบได้ก็จะตอบ ประเด็นนี้คุยกันหมดแล้ว แต่ก็ยังมาเซ้าซี้จะมาเอาข่าวจากตน แต่ตนก็ไม่ได้พูดอะไร แค่บอกว่าให้ไปกินข้าวกัน

ภาพจาก รายการเอาให้ชัด

หลังจากนี้หากมีสื่อมาขอสัมภาษณ์อีกจะปฏิเสธหรือไม่ ตนไม่เคยปฏิเสธว่าจะไม่ให้สัมภาษณ์ แต่บางประเด็น ตนจะคุยก่อนเสมอว่า จะคุยอะไร ประเด็นอะไร ย้ำว่าไม่เคยปฏิเสธสื่อ ไม่เคยพูดว่าจะไม่ให้สัมภาษณ์สื่อช่องใหญ่ เคยพูดแต่ว่า อีก 2 เดือนเจอกันนะ เพราะมีข่าวว่า วันที่ 15 ก.พ.จะมีการจับกุมคนร้า

ลุงพล กล่าวด้วยว่า สำหรับการเข้าเครื่องจับเท็จรอบที่ 2 นั้น ตนไม่มีเรื่องกังวลใจ ให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ด้วยดีตลอดเสมอมา ไม่มีอะไรเป็นกังวล ส่วนเรื่องที่ว่า ผบ.ตร.ระบุว่า ผลการเข้าเครื่องจับเท็จจะออกสัปดาห์นี้ คนที่เป็นคนร้ายน่าจะนอนไม่หลับนั้น ตนไม่กังวลตั้งแต่แรก เจ้าหน้าที่ก็ทำงานไป ตนก็ทำงานไปปกติ ถ้าถามตน คนที่จะคำถามได้ดีที่สุดคือ พ่อแม่น้องชมพู่ และเป็นหน้าที่ของชุดสืบที่จะหาพยานหลักฐาน

ภาพจาก รายการเอาให้ชัด

ด้านทนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความชื่อดัง กล่าวว่า หลังเกิดเรื่องกระทบกระทั่งเมื่อเช้า ตนก็มาให้คำแนะนำลุงพล ทางลุงพลก็ยอมรับผิด สำนึกผิด พยายามติดต่อน้องฟ้าไป เพื่อจะขอโทษ แต่ยังไม่ได้คุยกัน ตนอยากให้ขอโทษและคืนดีกัน ไม่ว่าจะเป็นหมอปลา คุณอุ๊บวิริยะ เมื่อเกิดความเข้าใจผิดกัน ก็อาจจะมีพูดคุยกันอีกครั้ง ส่วนเรื่องที่ให้คำปรึกษากทางคดีกับลุงพลนั้น ก็ให้คำแนะนำไปหลายคดีทั้ง คดีไม้ตะเคียน คดีที่หมอปลาแจ้งความ คดีน้องชมพู่ คดีภาษี ส่วนคดีน้องชมพู่นั้น ลุงพลให้การกับตำรวจไปเยอะแล้ว หากมีหมายจับออกมา ตนก็ดูแลอยู่

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ