ชาวบ้านช่วยคุณยาย

ชาวบ้านช่วยคุณยาย

วันที่ 12 เม.ย. 64 พ.ต.ท.จักรพล ใจเชื่อม สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ศรีมหาโพธิ์ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ ว่ามีชาวบ้านจับผู้ต้องสงสัยไว้ได้ 1 ราย ขณะที่กำลังจะหอบเงินสดของเหยื่อหลบหนี จึงไปตรวจสอบที่ ม.4 บ้านบุยายใย ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี

พบชาวบ้านได้จับตัว น.ส.ลาวัลย์ โซ่ลาย อายุ 53 ปี พร้อมด้วยถุงผ้าสีขาว ซึ่งภายในบรรจุซองกระดาษสีน้ำตาล 2 ซอง ซองกระดาษของธนาคารออมสินมีเงินสดจำนวน 5 แสนบาทอยู่ภายใน และอีกซองยังพบเงินปลอม จำนวน 4 แสนบาท

นอกจากนั้นยังพบผู้เสียหายคือนางสุภร อัศวดารา อายุ 75 ปี เจ้าของเงินสด 5 แสนบาท ที่ยังตกใจอยู่ เนื่องจากถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกให้พามาดูที่ดิน และถูกมิจฉาชีพออกอุบายให้ไปเบิกเงินสดมาเพื่อจะร่วมซื้อที่ แต่เฉลียวใจตะโกนให้ชาวบ้านช่วยจับมิจฉาชีพไว้ได้

ด้านนายสุเทพ โชควินิจ อายุ 28 ปี พนักงานส่งน้ำ ที่ช่วยคุณยายจับคนร้ายไว้ได้ เล่าว่า ได้ยินเสียงคุณยายตะโกนอยู่ในรถยนต์กระบะร้องให้ช่วยจับ มิจฉาชีพให้หน่อยมันจะเอาเงินฉันไป ก่อนจะเห็นผู้หญิงกำลังวิ่งเข้าไปในซอย จึงได้ขอยืมรถชาวบ้านขับตามไปจนพบแล้วถามว่าเอาเงินยายมาเหรอ แต่หญิงคนดังกล่าวปฏิเสธ แต่ในที่สุดก็รับว่าเอามาจริง พร้อมกับยื่นถุงผ้าสีขาวมาให้ตนเพื่อแลกกับการให้ปล่อยตัวไปโดยบอกว่าตัวเองไม่รู้เรื่อง

นายสุเทพ เล่าต่อว่า ตนไม่รับถุงผ้าใบนั้นและให้ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ช่วยกันจับตัวไว้ ก่อนที่ตนจะขับรถไปดูยายพบว่าถูก ทิ้ง ไว้ระหว่างทางบริเวณหน้าวัดบุยายใบ จึงได้พายายมาตรงที่จับหญิงมิจฉาชีพไว้ ส่วนคนที่อยู่ภายในรถได้รับรถหนีไปก่อนหน้านี้แล้ว

ขณะที่คุณยายสุภร เล่าว่า คนร้ายได้มาติดต่อเช่าบ้าน ระหว่างวางมัดจำมีสายโทรศัพท์มาทำทีพูดให้ตนได้ยิน ทำนองว่าหาบ้านเช่าให้ได้เรียบร้อยแล้วนะให้รีบไปที่บุยายใบ แล้วพูดถึงกรณีซื้อที่ดิน แล้วทางคนร้ายก็หันมาถามทางตน แล้วขอให้ตนนำทางไปให้ พอไปถึงก็มีคนบอกว่าจะขายที่ แต่คนร้ายได้สร้างเรื่องว่าขาดเงิน 5 แสนบาท โดยเตรียมเงินปลอมมา 4 แสนบาทเพื่อให้น่าเชื่อถือ และขอยืมจากตนโดยบอกว่าจะให้โฉนดไว้กับตน ก่อนพาตนไปเบิกเงินที่ธนาคาร

แต่พอกลับมาจากธนาคารยังไม่ทันถึงที่นัดหมายทางมิจฉาชีพคนหนึ่งได้อ้างว่าลืมถ่ายบัตรประชาชนจะให้ตนลงจากรถไปถ่ายบัตรประชาชนให้หน่อยแต่ตนไม่ยอม ทางมิจฉาชีพจึงพูดว่า เดี๋ยวให้น้องสาวเอามาให้พอดีมีอยู่ที่บ้าน ระหว่างที่ใกล้จะถึงที่หมาย มิจฉาชีพที่เป็นหญิงได้คว้ากระเป๋าผ้าที่มีเงินอยู่ในนั้นแล้ววิ่งลงจากรถ ส่วนคนในรถพยายามขับรถพาตนออกไป และขับรถมาปล่อยไว้บริเวณหน้าวัด

ด้านนางสาวลาวัลย์ ผู้ต้องหา รับสารภาพว่า ทำมาแล้ว 2-3 ครั้งโดยจะได้ส่วนแบ่งร้อยละ 15 เท่านั้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ จะได้เร่งตรวจสอบ และติดตามตัวมิจฉาชีพที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป

ทั้งนี้ลูกสาว ของคุณยาย ได้มอบสินน้ำใจจำนวนหนึ่งให้กับ นายสุเทพ ที่ช่วยจับคนร้ายไว้ได้ทำให้ไม่ไม่ต้องสูญเงินเดือบครึ่งล้านไป

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ