เผยโฉมคนจับโป๊ะ สาวท้องทิพย์ ช็อกอุ้มผ้าขนหนูทำผัวเชื่อสนิทใจ

เผยโฉมคนจับโป๊ะ สาวท้องทิพย์ ช็อกอุ้มผ้าขนหนูทำผัวเชื่อสนิทใจ

จากกรณี 2 สามี-ภรรยา ออกมาระบุว่าท้อง ได้ลูกแฝด พาไปฝากครรภ์เรียบร้อย ในวันที่ฝ่ายภรรยาไปคลอดลูกที่ โรงพยาบาลบางปลาม้า มีการผ่าคลอด ต่อมาพบว่าเด็กชายไม่แข็งแรง ต้องเข้าตู้อบ ทำให้ต้องส่งตัวไปเข้าตู้อบที่ โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช

ก่อนจะมีการโทรศัพท์มาแจ้งว่าลูกชายเสียชีวิต เมื่อจะนำศพไปทำพิธี ปรากฏว่า "ศพไม่มี" หนำซ้ำแฝดหญิงที่อยู่โรงพยาบาล ตามคำกล่าวอ้างก็อันตรธานหายไป ขณะที่โรงพยาบาลบางปลาม้า ระบุว่า หญิงคนดังกล่าวไม่เคยมาคลอดลูกในวันเวลาที่เป็นข่าว รวมทั้งไม่ได้ส่งตัวเด็กไปรักษาที่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช จนนำมาสู่ข้อสงสัยต่างๆเลยมาถึงกลายเป็นเรื่องท้องทิพย์ขึ้น

วันที่ 22 พ.ค. 64 นายเกรียงไกร พ่อเด็ก พร้อมน้องเตย แม่เด็ก ออกมาไหว้ขอโทษสังคม ปมกรณีที่โกหกว่าโรงพยาบาลไม่ยอมให้ศพลูกชายที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 พ.ค. ที่ผ่านมา

พระไสว ธัมมสโร อายุ 80 ปี พระลูกวัด วัดสวนแตง ที่ได้รับการนิมนต์ไปเชิญศพของลูกสาวนางสาวกรกนก ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช ก่อนที่จะเดินทางมาทำพิธีทางศาสนาที่วัดสวนแตง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่มีการมาเชิญอาตมาไปเชิญศพเด็กนั้น เวลาประมาณ 16.00 น. อาตมาอยู่ที่วัดสวนแตง มีรถกระบะมารับ มีนายนัทและนางสาวเตยและหญิงอีกคนนั่งบริเวณเบาะด้านหลัง ส่วนอาตมานั่งที่เบาะด้านหน้า และก็มีการเดินทางไปที่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว

จากนั้น แม่เด็กมีการลงจากรถบริเวณประตูด้านหน้า ส่วนอาตมาและสามีของแม่เด็กขับรถไปจอดบริเวณลานจอดรถ ด้านหลังของโรงพยาบาล รออยู่ค่อนข้างนาน และบอกให้อาตมารออยู่บนรถเท่านั้น บอกว่าด้านล่างค่อนข้างร้อน นายเกรียงไกรมีการพูดโทรศัพท์พูดคุยกับนางสาวกรกนกอยู่ 2 ครั้ง แต่ก็ดูท่าทีว่าไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างใด

จนกระทั่งขับรถออกไปบริเวณด้านหน้าโรงพยาบาล เพื่อที่จะรับนางสาวกรกนกขึ้นรถ โดยขณะนั้น เมื่อนางสาวกรกนกขึ้นมาบนรถ นายเกรียงไกรก็มีการบอกว่าขอดูหน้าลูกหน่อย แต่นางสาวกรกนกบอกว่าแพทย์ไม่ให้เปิด เพราะกลัวจะติดเชื้อ และได้มีการส่งสายสิญจน์ให้กับนางสาวกรกนก เพื่อที่จะผูกกับศพของเด็กในการทำพิธีนำศพไปที่วัด โดยผูกบริเวณผ้าที่ห่อศพ ลักษณะเป็นผ้าขนหนู

หลังจากนั้น ก็ขับรถกระบะไปที่วัด เมื่อไปถึงอาตมาได้รีบไปเข้าห้องน้ำ จึงไม่เห็นช่วงที่มีการนำศพของเด็กใส่ในโลงศพ เมื่อสอบถามอีกครั้งก็พบว่าสายสิญจน์ที่ผูกอยู่บริเวณตัวเด็ก ยังไม่ถูกกับข้อมือที่ถูกต้องตามประเพณี จึงมีการบอกให้ญาติเปิดโลงศพ เพื่อที่จะผูกสายสิญจน์กับข้อมือของเด็กอีกครั้งหนึ่ง แต่เมื่อเปิดออกมากลับไม่พบเด็กตามที่ปรากฏในคลิป จากนั้นทางครอบครัวก็โวยวายเสียงดัง และค่อนข้างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าศพของลูกหาย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เดินทางมาที่วัด ก่อนที่ครอบครัวของนางสาวกรกนกจะเดินทางออกไป คาดว่ามีการไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และนำโลงศพไปด้วย และเพิ่งจะนำมาฝากให้กับอาตมาเมื่อวานนี้

ที่ผ่านมา เมื่อมีการนำศพออกจากโรงพยาบาล ผ้าที่ห่อจะเป็นผ้าสีขาว อาตมามองว่าถ้าหากไม่มีการบอกให้เปิดโลง ก็อาจจะเป็นการเผาผ้าอย่างเดียว ก่อนหน้านี้เมื่อรับศพเด็ก จะมีการอุ้มมาในลักษณะแบบนี้ อาตมาไม่สามารถพูดอะไรได้มาก คงเป็นไปตามเวรตามกรรม ทำแบบใดย่อมได้แบบนั้น

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ