สธ.ขอผู้มีอาการน้อยในต่างจังหวัด กักตัว รักษาที่บ้าน
วันที่ 17 ก.ค.64 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์และมาตรการป้องกันโควิด-19 ว่า
สถานการณ์โควิดในทั่วโลกพบมากขึ้น โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลตา ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตขยายวงกว้างในระดับสูงมาก จนกระทบขีดความสามารถทางการแพทย์และสาธารณสุข ทั้งในกทม.และต่างจังหวัด ที่มีผู้ติดเชื้อเดินทางกลับภูมิลำเนา โดยในวันนี้ทะลุ 10,082 รายแล้ว และเสียชีวิตนับ 141 ราย
ส่วนใหญ่พบการติดเชื้อจากคนใกล้ชิด คนรู้จัก คนในครอบครัวและเพื่อนบ้าน ก่อนมาติดผู้สูงอายุและผู้มีโรคเรื้อรัง ทำให้การป่วยรุนแรงและเสียชีวิต แถมยังมีการลักลอบเล่นพนันและจัดปาร์ตี้ ทำให้ยอดไม่ลดลง
ถึงเวลาทุกครอบครัวต้องปกป้องคนที่ท่านรัก โดยความร่วมมือกับทุกฝ่าย งดออกจากบ้าน หรือทำงานที่บ้านให้มากสุด เพื่อลดการแพร่เชื้อและรับเชื้อ ขณะอยู่ในบ้านต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา และทำความสะอาดในบ้าน พร้อมแยกกันรับประทานอาหาร ทุกคนต้องช่วยกันปกป้องผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง รวมทั้งพาผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยงไปฉีดวัคซีน
ส่วนต่างจังหวัด โดยเฉพาะภาคกลางและตะวันออก ยังพบการติดเชื้อในโรงงานและสถานประกอบการ ผู้ประกอบการต้องร่วมมือกับคนงาน เพื่อลดการกระจายเชื้อออกไปยังชุมชน จึงออกมาตรการบับเบิ้ลแอนด์ซีล คือ การอยู่ในสถานประกอบการกับที่พักเท่านั้น
สำหรับสถานการณ์โรคในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ พบผู้ติดเชื้อเดินทางจากกทม.และปริมณฑลจำนวนมาก ทำให้โรงพยาบาลต้องรับรักษาผู้ติดเชื้อจำนวนมากในสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงขอให้งดการเดินทางข้ามจังหวัด โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่มีอาการหรืออาการน้อย ให้เข้าสู่ระบบการจัดการรักษาดูแลที่บ้านหรือการกักตัวรักษาในชุมชน ซึ่งขณะนี้ได้มีความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะใน กทม.หลายหน่วยงานเริ่มดำเนินการเป็นรูปธรรมแล้ว
จากสถานการณ์ในตอนนี้คาดการณ์ว่าหากยังไม่ทำมาตรการอะไรเพิ่มเติมจากนี้ อาจทำให้มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจำนวนมากใน 3-4 เดือน ทำให้ต้องยกระดับมาตรการควบคุมโรค โดยเฉพาะจำกัดการเดินทาง เพื่อลดการแพร่ระบาด ทุกคนยังต้องเคร่งครัดมาตรการส่วนบุคคลด้วย
ความร่วมมือของประชาชนเป็นปัจจัยให้การแพร่ระบาดที่สูงมากกลับมาดีขึ้นในเร็ววัน กระทรวงสาธารณสุขจะมีมาตรการเพิ่้มเติมและจะแถลงข่าวต่อไป