สุดรันทด ลุงตาบอด ป้าป่วย ขอข้าวคลุกเกลือจากเพื่อนบ้านประทังชีวิต

สุดรันทด ลุงตาบอด ป้าป่วย ขอข้าวคลุกเกลือจากเพื่อนบ้านประทังชีวิต

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 22 ส.ค.64 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณซอยประเสริฐอิสลาม 25 ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด หลังได้รับแจ้งจาก นายภัฏพงษ์ เรืองเครือ อายุ 66 ปี ตาขวาบอด 1 ข้าง เป็นโรคความดันสูง ส่วน น.ส.บรม สอนเพ็ง อายุ 59 ปี ภรรยา ป่วยเป็นเป็นโรคหัวใจ น้ำท่วมปอด

เคยหัวใจล้มเหลวมาแล้วหลายครั้ง แต่ปั๊มหัวใจฟื้นขึ้นมาได้ ตอนนี้เดือดร้อนหนักจากพิษโควิด-19 ไม่มีงานทำ เคยคิดจะฆ่าตัวตาย อยากร้องขอหน่วยงานให้ช่วยเหลือ เนื่องจากบ้านที่เช่าอยู่กำลังจะโดนเจ้าของบ้านไล่ออกจากบ้าน เนื่องจากค้างค่าเช่ามานาน 7 เดือน รวมทั้งค่าน้ำค่าไฟเป็นเงิน 2 หมื่นกว่าบาท

ทุกวันนี้ทั้งครอบครัวมีเงินติดกระเป๋าอยู่เพียง 10 บาท ต้องไปขอข้าวเพื่อนบ้านกิน บางวันไม่กล้าขอ ต้องกินข้าวคลุกกับเกลือที่ไปขอเพื่อนบ้านมา บางวันกินข้าวกับมะพร้าวขูด เอามาคลุกกินกับข้าวเปล่า อยากให้หน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือเรื่องค่าเช่าบ้านที่กำลังจะถูกยืดในวันนี้ แต่ตนยกมือไหว้ขอร้องไว้ถ้าถูกยืดไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน อายุมากแล้ว

นายภัฏพงษ์ เรืองเครือ อายุ 66 ปี เล่าว่า ตนมีอาชีพขับรถแท็กซี่ ตอนนี้มีโรคโควิด-19 จึงไม่ได้ขับรถมา 5 เดือนแล้ว ผู้โดยสารก็ไม่ค่อยมี ก่อนหน้านี้ตนโดนสายรัดกระโปรงรถ ดีดเข้าที่ตาทำให้ตาขวาบอด มองเห็นแค่ลางๆ และรักษาตัวเองอยู่ประมาณ 8 เดือน ผ่าตัดตามาแล้ว 4 ครั้ง ตอนนี้ค้างค่าห้องอยู่หลายเดือนแล้ว เดือนละ 2,000 บาท ไม่รวมค่าน้ำค่าไฟอีกประมาณ 1,000 กว่าบาท ทางเจ้าของห้องเช่าจะเข้ามาตัดน้ำตัดไฟในวันนี้ จึงติดต่อผู้สื่อข่าวให้เข้าช่วยเหลือ และขอเลื่อนค่าเช่าไปก่อน เพราะตอนนี้ตนไม่มีเงินสักบาทเดียว และไม่มีข้าวกินไม่รู้ว่าวันนี้จะกินอะไร

ทุกวันนี้ต้องกินข้าวเปล่ากับเกลือ มา 2-3 เดือนแล้ว แต่บางทีก็มีเพื่อนข้างห้องนำข้าวปลามาให้กินบ้าง ตอนนี้ชีวิตลำบากมากอยากได้ของกินของใช้มาประทังชีวิตก่อน ตนไปเก็บขวดน้ำมาขาย 6 กิโลกรัม ได้เงินมา 60 บาท นำไปเติมโทรศัพท์เพื่อโทรขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ แต่ไม่มีใครช่วย

ตอนนี้ที่ขับรถแท็กซี่ไม่ได้เพราะตาบอด 1 ข้างและไม่มีเงินเช่ารถ ผู้โดยสารก็ไม่มีจึงเลิกขับ ถ้าไม่มีอะไรกินบางทีก็ขอข้างบ้านบ้าง ตอนนี้อยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือตน หรือคนอื่นๆที่อยากทำบุญขอให้ช่วยเหลือตนอีกแรง ทุกวันนี้ไม่รู้จะทำยังไงอายุก็เยอะแล้ว ทั้งค่าบ้านค่าน้ำค่าไฟไม่มีจ่ายแล้ว ถ้าวันไหนไม่มีจะกินก็ต้องอดทั้งวัน

น.ส.บรม สอนเพ็ง อายุ59 ปี ภรรยา เล่าว่า รู้สึกท้อมากบางครั้งไปนั่งร้องไห้คนเดียว ลำบากมากไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ไมรู้จะทำอย่างไรเพราะลูกก็ลำบากเหมือนกัน บางทีอยากฆ่าตัวตายแต่กลัวบาปกรรม เหนื่อยใจมากๆและมีโรคหัวใจร่วมด้วย ตอนนี้ได้แต่ทนเอา เพราะตัวเองก็อ่านหนังสือไม่ออก จะไปทำงานที่ไหนก็ไม่ได้ นานๆทีจะมีงานเก็บกวาดห้องเข้ามาเดือนละ 1 ครั้ง ต้องเก็บขวดค้นขยะขายแต่ตอนนี้ทำไม่ได้แล้ว เพราะห้องพักที่เข่าอยู่ขอร้องให้ตนเลิกไปคุ้ยขยะกลัวเราจะติดเชื้อโควิด-19 ต้องอยู่บ้านเฉยๆ

นางแหม่ม บุญขุดทด อายุ 56 ปี เพื่อนข้างบ้าน เล่าว่าตนรู้จักลุงกับป้ามาประมาณ 20 ปีแล้ว ตอนแรกก็อยู่กินปกติ แต่พอช่วงโควิด-19 ก็เริ่มแย่ลงทุกวัน บางครั้งตนจะซื้อข้าวซื้อผลไม้มาให้เพราะความสงสาร ลุงจะโดนตัดน้ำตัดไฟวันนี้ ลุงกับป้าต้องยกมือไหว้ขอค้างไว้ก่อน

ซึ่งก่อนหน้านี้เคยโดนตัดไปแล้ว โดยห้องแถวนี้ ครอบครัวใครครอบครัวมัน ตนก็ช่วยพอที่ช่วยได้เพราะช่วงนี้หาเงินยากจริงๆ ลุงกับป้าเป็นคนขยันมาก หาทุกอย่างทำเพื่อแลกเงินตลอด หาขวดขาย แต่ทางห้องแถวขอห้ามไว้ เพราะเป็นช่วงโควิด กลัวลุงกับป้าจะติด ถ้าวันไหนลุงไม่มีกินก็จะมาขอตนก็คอยแบ่งให้ อยากให้หน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือหน่อย บางครั้งเห็นเขาอดเราน้ำตาไหลอดช่วยเขาไม่ได้จริงๆ

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ