เด้งแล้ว ผกก.อดีตแฟนดาราดัง

เด้งแล้ว ผกก.อดีตแฟนดาราดัง

กรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูล ซึ่งเป็นข้อร้องเรียนของ ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.เมืองนครสวรรค์ ระบุว่า เมื่อ 5 ส.ค.2564 ตำรวจชุดดังกล่าว จับผู้ต้องหาคดียาเสพติด 2 คน เป็นชายและหญิง นำมาที่โรงพัก และ เรียกเงินผู้ต้องหา ซึ่งผู้ต้องหาชาย ยอมจ่าย 1 ล้านบาท แต่ ผกก. จะเอา 2 ล้านบาท จากนั้น ผกก. ได้เอาถุงดำมาคลุมหัวผู้ต้องหาชาย จนเสียชีวิต และ บังคับลูกน้องว่า ให้บอกกับหมอว่า ผู้ต้องหาเสพยาเกินขนาดตาย ก่อนปล่อยตัวผู้ต้องหาหญิงไป และข่มขู่ว่า ห้ามพูดอะไรเพื่อแลกกับอิสรภาพ ทำให้ตำรวจชุดจับกุม ทนไม่ได้ จึงร้องเรียนทางสื่อต่างๆตามข่าว

ล่าสุดวานนี้ (22 ส.ค.2564) มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พร้อมทั้งจัดทีมลงพื้นที่ ตรวจสอบข้อเท็จจริง นอกจากนี้ บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ได้มีคำสั่งย้าย ผู้กำกับการคนดังกล่าว ไปปฏิบัติราชการที่ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 6 ไว้ก่อน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ที่ร้องเรียนเรื่องนี้ ยังบอกอีกว่า ตอนแรกที่เข้ามารับตำแหน่ง เห็นเป็นคนรวย หน้าตาดี เคยมีแฟนเป็นดารา คิดว่า จะดี แต่ปรากฎว่า “นี่มันโจร ในคราบเครื่องแบบชัดๆ

นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายคลายทุกข์ เปิดเผยกับทีมข่าวช่องวัน ว่า ตำรวจที่เข้ามาร้องเรียน ยังไม่กล้าเปิดเผยตัวตนเพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย แต่ยินดีให้ความร่วมมือ กับตำรวจเท่านั้น เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ จ.ชัยนาท ของกลางเป็นยาบ้าหลักแสนเม็ด ก่อนผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ถูกมาดำเนินคดีที่ จ.นครสวรรค์ สุดท้ายมีการเรียกเงิน ถึง 2 ล้านบาท ก่อนที่ผู้ต้องหาชาย ถูกถุงคลุมหัวจนตาย พร้อมปล่อยผู้หญิงไปโดยไม่เคยดำเนินคดี และชดใช้ค่าเสียหายให้ครอบครัวผู้ต้องหา อีก 5 ล้านบาท

ล่าสุด ผู้กำกับการฯ คนดังกล่าว ชี้แจงว่า ตำรวจ ไม่ได้ มีการซ้อม หรือทำร้ายใดๆ ส่วนประเด็นการเสียชีวิต ทางครอบครัว ก็ทราบดีว่า น้องที่เสียชีวิต มีโรคประจำตัว สำหรับการเรียกร้องเงินทองนั้น ยืนยันว่า ไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ซึ่งมีการสั่งดำเนินการสืบสวนเรื่องนี้อย่างละเอียด เพื่อจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนแล้ว

สอดคล้องกับพ่อของคนตาย ซึ่งเป็นอดีตทหาร บอกว่า ข่าวที่ออกมาว่า ตำรวจจับยา แล้วเรียกเงินนั้น พร้อมทั้งทำให้ลูกชาย เสียชีวิตนั้น ไม่เป็นความจริง วันดังกล่าว ลูกชาย กับภรรยา เข้าไปในตัวเมือง นครสวรรค์ เพื่อจะไปทำหน้า ระหว่างทางขับรถไปทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ และลูกชายเกิดอาการน็อก

เนื่องจากพักผ่อนน้อย สูบบุหรี่มาก ร่างกายอ้วน แล้ว ก็เป็นโรคหัวใจ โรคเบาหวาน ตำรวจ ช่วยเหลือนำตัวลูกชาย ส่งโรงพยาบาล พบว่า ลูกชายไม่มีการตอบสนองแล้ว เหตุการณ์ดังกล่าว ตนเองไม่ติดใจอะไรทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตามพ่อของคนตาย บอกอีกว่า ผุ้กำกับการฯ คนดังกล่าวเป็นคนดีมาก และพยายามช่วยเหลือลูกชายเต็มที่ ตอนลูกชายเสียชีวิต ผู้กำกับฯ ยังนั่งคุกเข่ากอดตนเอง ร้องไห้ด้วยความเสียใจ แต่ทั้งนี้ ในส่วนของแม่ผู้ตาย ซึ่งหย่าขาดกับพ่อของผู้ตาย ยืนยัน ว่า จะเดินหน้าดำเนินคดี เพื่อเอาผิดทีมชุดจับกุมที่ทำให้ลูกชายเสียชีวิต.

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ