ตำรวจพบหลักฐานใหม่ หลังพยานบอก ให้ไปค้นดูในป่าตรงข้ามบ้าน ที่กักขังเฮียโต

ตำรวจพบหลักฐานใหม่ หลังพยานบอก ให้ไปค้นดูในป่าตรงข้ามบ้าน ที่กักขังเฮียโต

จากกรณีที่ ชายวัย 67 ปี (เฮียโต) เข้าร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พร้อมกับมีการโชว์ร่องรอยแผลเป็นตามแขนและขา โดยเจ้าตัวให้การว่าเกิดจากถูกลูกชายและลูกสะใภ้ รวมถึงพ่อและแม่ฝั่งของสะใภ้ มีการทำร้าย ใส่ยาในอาหารและน้ำให้กินโดย ถูกกักขังกรอกยานานกว่า 2 ปี มีโอนถ่ายทรัพย์สินกว่า 65 ล้าน

ต่อมามีรายงานว่า ได้มีคนโผล่ให้ข้อมูลกับตำรวจซึ่งขณะนี้ถูกกันตัวไว้เป็นพยาน โดยบอกว่าให้ไปค้นดูที่บริเวณป่าหญ้าตรงข้ามกับบ้านหลังดังกล่าว โดยพยานรายนี้เผยว่าเคยเป็นคนงานในบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งบ้านหลังนี้มักจะเอาขยะไปทิ้งในป่าตรงข้ามบ้าน ไม่เอาไปทิ้งในถังเทศบาล พอเจ้าหน้าที่ไปถางหญ้าตรวจค้น ปรากฎว่าพบขวดยาเบตาดีน และผ้าก็อตพันแผล ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำไปตรวจ DNA แล้วว่าเป็นของใคร อีกทั้งยังพบกระป๋องปลากระป๋อง แพมเพิส สลิ้งฉีดยา ซึ่งคำให้การของเฮียโต เคยบอกว่าตอนโดนกักขังได้กินปลากระป๋อง และใส่แพมเพิสผู้ใหญ่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมนำไปตรวจสอบ อยู่ระหว่างรอผล

นอกจากนี้ชาวบ้านยังให้ข้อมูลอีกว่า ให้ลองไปตรวจดูว่าบ้านหลังนี้เคยทำธุรกิจอะไร พอตรวจสอบจึงพบว่าบ้านหลังดังกล่าวเคยทำธุรกิจเลี้ยงหมูอีกด้วย

ล่าสุดมีรายงานว่า ลูกชายเฮียโต สะใภ้ พร้อมทั้งพ่อตาและแม่ยาย ได้เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วโดยมีทนายความติดตามมาด้วย เบื่องต้นโดนแจ้ง 2 ข้อหา กักขังหน่วงเหนี่ยวและข่มขืนจิตใจผู้อื่น ส่วนลูกสะใภ้ของเฮียโต ยังไม่สามารถตั้งข้อหาได้ เนื่องจากพยานยังไม่ยืนยันแน่ชัด

ภาพจาก ท๊อป เรารักแปดริ้ว

หลังจากรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ทนายได้ยื่นขอประกันตัว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่คัดค้านประกันตัวเนื่องจากได้แสดงความบริสุทธิ์ใจเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนด้วยตัวเอง

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ