ป้าแต๋น ยิ้มไม่ออก หลังตำรวจ เรียกสอบลุงม็อค

ป้าแต๋น ยิ้มไม่ออก หลังตำรวจ เรียกสอบลุงม็อค

เมื่อวันที่ 8 ก.ย.63 ทีมข่าว ได้พูดคุยกับนายม็อค สงวนชื่อ นามสกุล พยานของลุงพล เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ ตำรวจได้แอบเชิญตนไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องที่ลุงพลไปส่งพระ โดยตำรวจได้ขอความร่วมมือให้ตนเดินทางไปยังที่พักสงฆ์ป่าช้าหลวง ต.บ้านเป้า อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร เป็นระยะทาง 93 กิโลเมตร เพื่อดูว่าในวันที่น้องชมพู่หายไปนั้น ตนเดินทางไปกับลุงพลจริงหรือไม่

ทั้งนี้ก่อนหน้าตนก็เคยให้ปากคำกับตำรวจตั้งแต่ช่วงแรก และเซ็นยืนยันการให้ปากคำไปแล้ว แต่ครั้งนี้ตำรวจได้มาขอความร่วมมือให้ไปดูสถานที่จริง เพราะยังไม่มีตำรวจหน่วยงานใดเคยไป ซึ่งตำรวจได้มารับตนจากในหมู่บ้านไปเวลาประมาณ 10.00 น. โดยเดินทางประมาณชั่วโมงกว่า ๆ แวะที่ด่าน CO VID ที่อำเภอหนองสูง และไม่ได้แวะจอดที่ไหนอีก เหมือนกับวันที่เกิดเหตุจริง ๆ และเมื่อไปถึงวัดและเห็นสถานที่จริง ตำรวจก็พาตนเดินทางกลับทันที

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

ในระหว่างทางตำรวจก็สอบถามว่าแวะซื้อของที่ไหนบ้าน ขากลับก็ได้แวะที่ตลาดในอำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งตนได้พาตำรวจเดินตลาดเล็กน้อย และกลับทันทีโดย ถึงหมู่บ้านกกกอก เวลาประมาณ 13.00 น. นายม็อค กล่าวต่อว่า ตนมองว่าตำรวจคงเรียกตนไปสอบถามข้อมูลเรื่องที่สงสัยเพิ่มเติมเท่านั้น เพราะตำรวจไม่ได้ถามเรื่องอื่นเลย รวมถึงระหว่างเดินทางตำรวจก็ไม่ได้มีการจับเวลาการเดินทาง อีกทั้งตำรวจก็ยังขับรถค่อนข้างเร็ว อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าตนไม่ได้ให้การเข้าข้างลุงพล เพราะในวันเกิดเหตุนั้นตนก็ได้เดินทางไปกับลุงพลจริง ๆ

ไทม์ไลน์นายม็อค ก่อนถูกเรียกสอบเพิ่มมีดังนี้ ในวันที่ 5 ก.ย.63 ทีมข่าวนำเสอนข่าวนายม็อค พร้อมเป็นพยานให้กับลุงพล ถัดมาวันที่ 7 ก.ย.63 เวลา 10.00 น. น้องไอซ์ เดินทางกลับ ขณะเดียวกันตำรวจ ได้เข้าพบนายม็อคให้พาไปวัดป่าภูกระโล้น

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

ทีมข่าวสอบถาม ไอซ์ สารวัตร กิจพานิช ผู้สื่อข่าวอมรินทร์ทีวี เปิดเผยว่า ตำรวจยังคงเห็นทำงานอยู่ ทั้งตำรวจในพื้นที่ และก็ตำรวจชุดของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เช่นเดียวกับสื่อก็ยังอยู่ในพื้นที่ ตำรวจมีอยู่ในพื้นที่จริง แต่น้อยกว่าช่วงที่มีการสืบสวนสอบสวนหนัก ๆ ที่มีการสอบปากคำชาวบ้านทักทายชาวบ้าน อย่างช่วงที่ผ่านมา ตนอาจไม่ได้อยู่ในหมู่บ้านตลอด แต่ก็ยังเห็นตำรวจมักจะขับรถจักรย านยนต์ แต่งกายนอกเครื่องแบบวนเวียนในหมู่บ้านเหมือนมาลาดตระเวน บางครั้ก็เห็นตำรวจเข้าไปคุยกับชาวบ้านบ้างบางหลัง

อย่างตลาดหน้าบ้านลุงพล ก็เห็นตำรวจแต่งชุดนอกเครื่องแบบมาซื้อของหน้าบ้านลุงพล ซึ่งข้อมูลที่ทราบตำรวจยังนอนพักอยู่ในบ้านพักใกล้ ๆ กับบ้านกกกอก ซึ่งการทำงานค่อนข้างลับ โดยไม่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลกับสื่อ ซึ่งยังเห็นทำงานอยู่ตลอด ชุดที่เห็นในพื้นที่แน่ ๆ คือ ตำรวจนครบาล จะแต่งนอกเครื่องแบบ มีความเป็นบ้านมากขึ้น อาจจะเกี่ยวกับความใกล้ชิดกับชาวบ้าน

ปฏิทินชีวิตลุงพล วันที่ 11 พ.ค.63 เวลา 07.15 พูดคุยทางโทรศัพท์กับนายก่อง ที่บ้านพักของตัวเอง เวลา 07.23 ถึง 07.34 น. ลุงพลออกจากบ้านไปหานายก่อง และเวลา 08.14 น. กลับมาบ้านอยู่กับป้าแต๋น

จากนั้นเวลา 08.20 ลุงพลอยู่ที่สวนย าง ซึ่งมีนางสาวิตรีไปด้วย และออกจากสวนเวลา 09.22 น. ถึงบ้านเวลา 09.30 น. แต่ในระหว่างเวลา 09.45 ถึง 10.00 น. ลุงพลออกจากบ้านไปส่งพระที่วัดภูผาแอก ห่างจากบ้าน 2 กม. และในเวลา 10.00 ถึง 10.20 น. ไปรับพระกับไปรับป้าถอนและสามี

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

ทีมข่าวได้พูดคุยกับลุงพล กรณีที่พยานของเจ้าตัวถูกเรียกไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โดยนายไชย์พล วิภา ลุงของน้องชมพู่ เปิดเผยว่า ตนคิดว่าสาเหตุที่ตำรวจเชิญตัวนายม็อคไปชี้สถานที่เกิดเหตุจริง เพราะตำรวจคงอยากรู้ว่าในวันเกิดเหตุนั้นตนเดินทางไปที่ไหนบ้าง และตนคิดว่าสิ่งที่จะทำให้ตำรวจเลิกสงสัยตนนั้น ขึ้นอยู่กับพยานแวดล้อมและคำให้การของพ่อแม่น้องชมพู่ ซึ่งตนคิดว่าตำรวจก็ต้องทำตามผู้สูญเสียอยู่แล้ว

นายไชย์พล กล่าวต่อว่า ตนไม่ได้กังวลเรื่องที่ตำรวจมาสอบถามนายม็อคเพิ่มเติม เพราะพย านของตนก็พูดความจริงอยู่แล้ว และตนก็เชื่อในพย านของตน และความกังวลก็ลดน้อยลงแล้ว เพราะผ่านไปกว่า 4 เดือน

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางสมพร หลาบโพธิ์ ป้าของน้องชมพู่ เปิดเผยว่า ตนก็ไม่รู้ว่าทำไมตำรวจถึงเรียกนายม็อคไปสอบถามเพิ่มเติม แต่ตำรวจคงรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ ที่ผ่านมาเราก็พยายามพิสูจน์ตัวเองมาตลอด ซึ่งก็แล้วแต่เขาจะทำอะไร เพราะตนก็ขัดคำว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้ ตนเป็นประชาชน แต่ยอมรับว่าอ่านความคิดตำรวจยาก แม้ว่าเรื่องจะผ่านมานานแล้ว แต่ตอนนี้ตนก็ยังมีความกังวลเหมือนเดิม เพราะถึงแม้ตนจะมั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิด แต่บางอย่างที่เรามองไม่เห็นก็ไม่อาจจะต้านอะไรได้ ซึ่งตนก็คงอยู่ไปตามประสาของตนอย่างนี้

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางนลิน เงินนาม พยานของลุงพล เปิดเผยว่า แม้สามีจะถูกเรียกไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ตนก็ไม่กังวล หากตำรวจจะเรียกตนไปสอบถามข้อมูลด้วย เพราะที่ผ่านมาตนก็เดินเคียงข้างและเป็นพยานให้ลุงพลมาเสมอ อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด และตนก็หนักแน่นในคำพูดของตนที่เป็นพยานให้ลุงพล และยืนยันว่าในวันที่ 11 พ.ค.63 ตนไปส่งพระกับลุงพลที่อำเภอหนองสูงจริง ๆ

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

สำหรับความกังวลว่าคดีน้องชมพู่อาจพลิกนั้น ลุงพล บอกว่า ไม่กังวล เชื่อว่าพยานพูดความจริง ขณะที่นางสมพร บอกว่า กังวล แต่นางนลิน บอกว่า ไม่กังวล เชื่อมั่นในตัวลุงพล ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางจำลอง แดนกาไสย ชาวบ้านกกกอก เปิดเผยว่า แม้ว่าตำรวจจะมีการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับพยานของลุงพล ซึ่งลุงพลก็ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ และตนก็ยังเชื่อมั่นในตัวของลุงพลเช่นเดิม ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าการที่ตำรวจเชิญตัวนายม็อคไปนั้น ตนก็ไม่รู้ว่าเขาสอบถามอะไรบ้าง อาจจะเกี่ยวกับลุงพลหรือไม่เกี่ยวก็ได้ แต่ตนมองว่าคนเราถ้าบริสุทธิ์ก็ไม่ต้องกลัวหรือกังวลอะไร

อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าสาเหตุที่ตำรวจเรียกสามีไปสอบถามเพิ่มเติม เพราะตำรวจอาจจะมีข้อสงสัยอะไรบางอย่าง ตำรวจก็ไม่ได้สอบปากคำสามีมากเท่าสอบปากคำตน และถ้าต้องขึ้นศาลตนก็พร้อมเป็นพยายให้ลุงพล เพราะตนเดินทางไปส่งพระกับลุงพลจริง ๆ

ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ