ครูลูกกอล์ฟ เดือด แท็กหา 2 สื่อใหญ่ เสนอข่าวลุงพล จากคดีเด็กเสียชีวิต กลายเป็นอะไรไปแล้วก็ไม่รู้

ครูลูกกอล์ฟ เดือด แท็กหา 2 สื่อใหญ่ เสนอข่าวลุงพล จากคดีเด็กเสียชีวิต กลายเป็นอะไรไปแล้วก็ไม่รู้

เรียกว่าเป็นกระแสขึ้นมาทันทีหลังหัวหน้าช่างภาพสำนักข่าวใหญ่สำนักหนึ่งตัดสินใจลาออก เซ่นปมคดีน้องชมพู่ โดยการปั้นข่าวจนทำให้ นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล หนึ่งในผู้ต้องสงสัยในคดีนี้โด่งดังมีชื่อเสียง ชนิดที่ว่าคาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว จนกลายเป็นประเด็นถกเถียงไปทั่วจากคดีเด็กตายกลายเป็นสร้างดาวดวงใหม่ขึ้นมาอย่างน่าสลดใจ โดยช่วงภาพหนุ่มรายนี้ตัดสินใจลาออก จากการรับไม่ได้และยึดหลักจรรยาบรรณ ในวิชาชีพเสนอข่าวจนแกรนหลักในคดีที่ควรจะเป็นผิดเพี้ยนไปจากเดิมจนไม่สามารถอภัยให้ตัวเองได้

โพสต์ดังกล่าว

โดยลุงพลนั้นหลังจากเป็นข่าวโด่งดังจากคดีน้องชมพู่เสียชีวิต ณ หมู่บ้านกกกอก จังหวัดมุกดาหาร สื่อนำเสนอข่าวโดยการปักหลักดูสถานการณ์จนเกิดเป็นกาารบิดเบือน เสนอข่าวคล้ายเรียลลิตี้ชีวิตเสียมากกว่า เป็นข่างอาชญากรรม จนปลุกปั้นลุงข่าวโด่งดังลุงพลเป็นพลุแตก มีงาน เดินแบบ จ้างจะไปรีวิวสินค้า รีวิวรถ จะไปเล่นหนัง ซึ่งค่าตัวนับแล้วสามารถเทียบเท่าดาราเบอร์ต้นๆเลยก็ว่าได้

ต่อมา ชาวเน็ต แห่ติด แฮชแท็ก #แบนลุงพล จนขึ้นอันดับหนึ่งทวิตเตอร์ พร้อมตั้งคำถามต่อสังคมถึงลุงพล ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยในคดีน้องชมพู่ แต่กับกลายเป็นคนดังขึ้นมาจากการปั้นกระแสข่าวโกยเงินเข้ากระเป๋า จนผู้เสพข่าวพากันวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนาๆมาถูกแล้วหรือ

ล่าสุด พิธีกรและครูสอนภาษาอังกฤษคนดังขวัญใจคนบันเทิงและชาวโซเชียลอย่าง ลูกกอล์ฟ คณาธิป สุนทรรักษ์ หรือที่หลายๆ คนรู้จักกันดีในนาม ครูลูกกอล์ฟ ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งเจ้าตัวก็ได้โพสต์ภาพข้อความลงอินสตาแกรมส่วนตัว โดยระบุเนื้อหาเอาไว้ว่า ฝากด้วยนะคะ พร้อมแท็กไปยังอินสตาแกรมของช่อง ไทยรัฐ และ อมรินทร์

สื่อหลัก สื่อรอง สื่อใดๆ สำคัญมากจริงๆ ดูง่ายๆ พวกคุณสามารถเปลี่ยนเรื่องราวการเสียชีวิตของเด็กผู้หญิงคนนึง ให้กลายเป็นอะไรไปแล้วก็ไม่รู้ ไม่รู้สึกอะไรบ้างเหรอคะ ไม่มีใครในองค์กรเตือนกันบ้าง หรือเอะใจสักหน่อย

ส่วนพวกเราคงทำได้แค่ไม่ต้องไปแชร์ข่าวพวกนั้นต่อ

เรียบเรียงโดย siamtopic

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ