วันที่ 18 ก.ย.มีรายงานว่า พระครูกิตตินนทคุณ เจ้าอาวาสวัดบางจาก ต.คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้มีการเปิดเผยถึงต้นแบบรูปปั้นไอ้ไข่ของวัดบางจาก หลังจากมีเรื่องลิขสิทธิ์ไอ้ไข่ที่วัดดังใน จ.นครศรีธรรมราช ว่าได้จดลิขสิทธิ์ไอ้ไข่เอาไว้ และเตือนวัดต่างๆ ที่มีรูปปั้นไอ้ไข่ว่าส่อเค้าเข้าข่ายละเมิดลิขสิทธิ์นั้น

พระครูกิตตินนทคุณ กล่าวว่า ที่วัดบางจากก็เป็นอีกวัดหนึ่งที่มีรูปปั้นไอ้ไข่และมีประชาชนเดินทางมากราบไหว้ขอพรกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางวัดได้ถอดแบบรูปปั้นไอ้ไข่มาจากรูปแกะสลักที่ทำมาจากงาช้างอายุร่วมร้อยปี ของลูกศิษย์คนในพื้นที่วัดบางจากที่ได้รับตกทอดกันมา หากเอาไปเทียบกับไอ้ไข่ที่วัดดังที่จดลิขสิทธิ์ไว้เมื่อปี 2525 จะเห็นได้ว่า ไอ้ไข่มีตัวตนมีคนนับถือบูชามาก่อนที่วัดดัวกล่าวจะอ้างสิทธิ์เสียอีก

เพราะฉะนั้นวัดบางจากเองได้ปั้นหุ่นไอ้ไข่ขึ้นที่นี้ ตามจากแบบที่เป็นงาแกะสลักอายุร่วมร้อยปี ทำเสร็จก็ปลุกเสกไอ้ไข่ เชิญวิญญาณมาที่นี่ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทางวัดดัง และทางวัดได้จุดธูปเชิญวิญญาณไอ้ไข่ ศิษย์หลวงปู่ทวด ไม่รู้ว่าหน้าตารูปร่างจะไปเหมือนกันหรือเปล่า แต่ทางวัดไม่ได้เกี่ยวข้องกับวัดดังกล่าวด้วย

ส่วนเรื่องการสร้างไอ้ไข่แล้วไอ้ไข่ไปอยู่ที่วัดใด ช่วยเหลือคนได้จริงไหม ก็ต้องดูกันในระยะยาว แต่ถ้าบอกว่าเป็นพุทธพาณิชย์ต้องดูว่าวัดไหนมีนายทุนมาจัดสร้าง มาลงทุนทำเอง แบบนั้นถึงจะเรียกพุทธพาณิชย์มากกว่า

พระครูกิตตินนทคุณ กล่าวอีกว่า การที่จะตีความว่าไอ้ไข่เป็นของวัดดังอย่างเดียวนั้น ถามว่านามว่าไอ้ไข่เป็นนามสาธารณะที่เรียกเด็กสมัยก่อน ส่วนการใส่แว่นตาใครก็ใส่ได้ ไม่ได้เป็นสินค้าที่มีรูปแบบอย่างชัดเจน ตนอยากให้ทางวัดไปกำชับดูแลว่าอย่าให้มีนายทุนมาหาประโยชน์จากวัดจะดีกว่า ขอให้ทำเพื่อให้ประชาชนเข้าวัดและทำบุญให้เขาได้ไปเกิดในที่ที่ดี อย่ามองว่าเป็นสินค้า

ส่วนเรื่องการฟ้องร้องตนไม่หนักใจ เพราะทางวัดเราไม่ได้เกี่ยวกับเขา เราทำโดยสุจริตใจ ถ้ามีความผิดต่อไปประชาชนก็ทำอะไรไม่ได้ ไอ้ไข่เป็นสาธารณะ แต่ถ้าเป็นไอ้ไข่วัดเจดีย์ วัดที่สิชลเป็นเจ้าของ ถ้าเป็นลิขสิทธิ์ก็ให้เขาเชิญวิญญาณกลับไป เราทำให้ประชาชนกราบไหว้ ที่วัดเราก็เปิดให้ประชาชนมากราบไหว้ปกติ บางคนมาแล้วก็มาอีก นั่นเป็นเพราะอะไร

อย่างไรก็ตาม พระครูกิตตินนทคุณ ได้เปิดภาพจากโทรศัพท์มือถือที่บันทึกภาพรูปแกะสลักไอ้ไข่ซึ่งทำจากงาแกะที่ดูเก่าและมีอายุนับร้อยปี โดยเป็นงานแกะที่แตกลายงา มีการจารอักขระกำชับไว้ที่ใต้ฐานอีกด้วย ซึ่งเจ้าของงาแกะสลักไอ้ไข่ดังกล่าว ซึ่งเป็นเจ้าของที่แท้จริงได้นำไปเก็บรักษาไว้ในที่ที่ปลอดภัยแล้ว แต่ยินยอมให้ทางวัดถ่ายภาพบันทึกรายละเอียดเพื่อนำมาเป็นต้นแบบสร้างวัตถุมงคลไอ้ไข่วัดบางจากรุ่นที่สองต่อไป