ด่วน ตำรวจเผยแล้ว ผู้ต้องสงสัยทั้งหมด ที่ต้องเข้าเครื่องจับเท็จ คดีน้องชมพู่

ด่วน ตำรวจเผยแล้ว ผู้ต้องสงสัยทั้งหมด ที่ต้องเข้าเครื่องจับเท็จ คดีน้องชมพู่

จากกรณี นายไชยพล หรือลุงพล ลุงน้องชมพู่ เปิดเผยถึงกรณีตำรวจจะใช้เครื่องจับเท็จในการสืบคดีชมพู่ ว่า หากมีการใช้เครื่องจับเท็จ ตนไม่ได้กังวล ซึ่งจำได้ว่าตนเคยเสนอให้ตำรวจใช้เครื่องจับเท็จตั้งแต่เกิดเรื่องช่วงเดือนแรก แต่ถูกเพิกเฉยและไม่ได้มีการพูดถึง จนถึงวันนี้ผ่านไปแล้วกว่า 4 เดือน ซึ่งหากนำเครื่องจับเท็จมาใช้ ตนมองว่าอาจจะไม่ได้ผล เพราะเนื่องจากข้อมูลมีการปรุงแต่ง คนที่อาจเป็นคนร้ายอาจมีการเตรียมตัวตอบคำถาม และทนกับความตื่นเต้น แต่ก็ยังเชื่อมั่นว่าคนร้ายก็ต้องมีพิรุธให้ตำรวจจับได้อย่างแน่นอน

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว

รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล ผช.อธิการบดีและประธานกรรมการ คณะอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม ม.รังสิต กล่าวว่า เครื่องจับเท็จ มีความจำเป็นในคดีน้องชมพู่ ซึ่งหากพนักงานสอบสวน มีการสอบปากคำและคำให้การไม่สอดคล้องตรงกับพยานหลักฐาน จึงจำเป็นต้องมีการใช้เครื่องจับเท็จมาช่วยคลี่คลายคดี อีกทั้งมีความสำคัญเนื่องจากเป็นเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ ที่จะช่วยเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า คำให้การเป็นจริงหรือเท็จ

ภายหลังจากการรวบรวมพยานหลักฐาน พบว่ามีผู้ต้องสงสัย แล้วจึงนำแต่ละคนมาเข้ากระบวนการซักถาม สอบปากคำ เข้าเครื่องจับเท็จ โดยหลักซักถาม เพื่อให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะถามความจริง ถามวนไป ถามเวลา เมื่อสอบปากคำผ่านไป ก็จะวนกลับมาถามซ้ำในประเด็นเดิม ซึ่งแม้ผู้ให้ปากคำจำรายละเอียดไม่ได้ แต่ต้องสามารถจำสาระสำคัญของประเด็นที่ซักถามได้

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว

สำหรับบุคคลจากคดีน้องชมพู่ ที่ควรต้องใช้เครื่องจับเท็จ คือ บุคคลที่เป็นผู้ต้องสงสัย ตามข้อมูลการสืบสวนสอบสวน หรือหากไม่ใช่บุคคลต้องสงสัย ก็เป็นบุคคลที่มีความใกล้ชิดกับน้องชมพู่ หรืออยู่ในช่วงเวลาการหายตัวไป อีกทั้งอาจจะเป็นพยานปากที่ให้ความสำคัญต่อคดี เช่น พ่อแม่น้องชมพู่ ลุงพล ป้าแต๋น เป็นต้น เข้าเครื่องจับเท็จเพื่อซักถาม ตามขั้นตอน ซึ่งหากพยานปากรายใด ที่ปฏิเสธการเข้าเครื่องจับเท็จ หรือปฏิเสธให้ข้อมูลกับตำรวจ ถือว่ามีพิรุธ ทั้งนี้ข้อมูลจากการใช้เครื่องจับเท็จในคดี เป็นข้อมูลที่ศาลรับฟัง และอาศัยพยานหลักฐานอื่นประกอบ เพื่อให้ปราศจากข้อสงสัย

พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช ฉายาสารวัตรแรมโบ้ อดีตผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ และอดีตสารวัตรกองปราบนครบาล วิเคราะห์คลิปเสียงที่มีการแชร์ในโลกออนไลน์ว่า ประเด็นที่ผู้ใหญ่บ้านกกกอก ออกมาบอกว่าพูดโกหก คงเป็นเพราะกลัวว่าจะถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ฟ้องหมิ่นประมาท และกลัวถูกเรียกให้มาเป็นพยาน ถ้าจะหลอกก็คงไม่พูดแบบนี้ หรือหากเป็นคนที่รำคาญ ก็ต้องพูดตัดบทว่า อย่าโทรมาอีก แล้วตัดสายไปจะดีกว่า แต่นี่คือการพูดเป็นเรื่องเป็นราว

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว

การเข้าเครื่องจับเท็จ มีผลเรื่องจิตวิทยามาก มีผลต่อจิตวิทยาผู้ต้องสงสัย หรือตัวคนร้าย ทำให้ตำรวจรู้ว่า ใครพูดจริงหรือพูดโกหก มีผลทางด้านแนวทางการสืบสวนของตำรวจมาก เพราะมีตัวเลือกแค่ 1-2 คน เราจะรู้เลยว่าใครพูดจริงหรือใครพูดเท็จ

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว

หากตำรวจรู้ว่า ใครพูดจริงหรือเท็จ หลักทางวิทยาศาสตร์ที่เชื่อถือได้ส่วนหนึ่ง ในคดีใหญ่ ๆ ส่วนใหญ่จะทำกัน ถ้าไม่มีประจักษ์พยาน ไม่มีพยานแวดล้อม ผู้เสียหายไม่มีผล DNA ก็จะนำผู้ต้องสงสัยทุกคนเข้าเครื่องจับเท็จ

สารวัตรแรมโบ้ บอกอีกว่า เครื่องจับเท็จ เป็นทางเลือกสุดท้ายของตำรวจ ส่วนใหญ่ใช้ในการทำคดีลักทรัพย์ ที่มีทรัพย์มูลค่าสูง เครื่องจับเท็จมีความแม่นยำมากถึง 90 เปอร์เซ็นต์

ขอบคุณที่มาจาก ทุบโต๊ะข่าว

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ