จากกรณี ครูจุ๋ม ครูพี่เลี้ยงโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี ที่มีกรณีทำร้ายเด็กนักเรียนชั้นอนุบาล 1 ทำให้บรรดาผู้ปกครองของเด็กรวมตัวกันขอดูกล้องวงจรปิดห้องอื่นๆ โดยพบว่ามีคุณครูอีหลายท่านที่มีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายเด็กด้วยเช่นกัน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีการนัดประชุมชี้แจงผู้ปกครองในกรณีครูในโรงเรียนทำร้ายร่างกายเด็ก ซึ่งมีผู้ปกครองรายหนึ่งได้เปิดเผยว่า ลูกถูกครูจุ๋มทำร้ายร่างกายโดยการทุบหัว ด้วยนิสัยของลูกเป็นคนที่อดทน ไม่ค่อยพูด จึงได้แกล้งถามลูกจนได้ความว่า ลูกโดนทุบหัวจากครูจุ๋ม ตนจึงได้สังเกตร่างกายของลูกพบว่ามีรอยช้ำอยู่บริเวณศีรษะและมีรอยบริเวณด้านหลังเป็น สะเก็ด ซึ่งมีหลักฐานที่ถ่ายเก็บไว้ตอนสอบถามลูก มีหลายอย่างที่ได้พูดออกมาทำให้รู้ถึงความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

จนสุดท้ายสิ่งที่ร้ายแรงที่สุดคือ กระทบกับลูกสาวอีกคนของตนซึ่งเป็นน้องสาวของเขา เพราะทุกอย่างที่ครู่จุ๋มทำร้ายเด็ก ลูกของตนได้เรียนแบบพฤติกรรมความรุนแรงทั้งหมดและนำไปใช้กับน้องสาว โดยมีทั้งการตบ ตี ผลัก ด่าทอ ทำให้ตนรับไม่ได้จริงๆ ในตอนนี้จิตใจของลูกแย่มากเหมือนลูกเป็นคนบ้า บางครั้งลูกหยิบตุ๊กตาออกมาบอกรักแล้วปาตุ๊กตาและหยิบขึ้นมาใหม่

เหมือนลูกเสียสติซึ่งมองว่าเป็นพฤติกรรมเลียนแบบแน่นอน จะไม่มีวันยอมและสู้ให้ถึงที่สุด เนื่องจากตอนนี้ครูจุ๋มยังไม่โดนจับ แล้วความปลอดภัยของลูกจะมีใครมารับรองได้ ทางโรงเรียนก็ยังไม่ออกมาชี้แจงอะไรเลย

นอกจากนี้ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ นักสิทธิมนุษยชนเด็ก เผยอีกว่า ตนรู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้มีการชี้แจงอย่างที่ควร ทางผู้บริหารโรงเรียนควรชี้แจงให้ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคัดเลือกบุคลากรที่เข้ามาสอนเป็นการคัดเลือกแบบไหน จึงทำให้ถึงเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น แต่ก็ไม่ได้รับอนุญาติให้เข้าไปติดตามความคืบหน้า ซึ่งวันนี้เวลาบ่าย 2 โมง

จะมีผู้ปกครองเนอร์สเซอรี่เข้าแจ้งความเพิ่มในกรณีทำร้ายร่างกายเด็ก โดยต้องการความกระจ่างว่านโยบายการป้องกันเด็กในประเทศสามารถคุ้มครองเด็กได้แค่ไหนและได้ปฏิบัติตามอนุสัญญาสิทธิเด็กระหว่างประเทศไหม ตอนนี้ทางโรงเรียนให้ไม่ให้ตนสอบถาม ตนก็ต้องไปสอบถามหน่วยงานภาครัฐมีมาตรการเยียวยาช่วยเหลือ ตรวจสอบเข้มข้นยังไงบ้าง เพราะหลายข้อเรียนร้องที่ยื่นเมื่อวานนี้ยังไม่เป็นที่ชัดเจน ต้องยอมรับในกระบวนกฎหมาย ครูจุ๋มยังไม่ได้หลบหนีและถ้าเกิดทำผิดจำคุกไม่เกิน 3 ปี ทั้งนี้ทั้งนั้น สถานศึกษาไม่สามารถปัดความรับผิดชอบได้ต้องร่วมรับผิดชอบกับลูกจ้างด้วย