จากกรณี นางบัวลอย สาวใหญ่วัย 61 ปี ซึ่งถูกจับกุมหลังก่อเหตุจ้างวานฆ่านายอนันต์ ทองมาลย์ อายุ 58 ปี หวังเงินค่าฌาปนกิจ 5 แสนบาท ก่อนจนท.จะสืบทราบว่ามีผู้ที่เสียชีวิตรวม 4 รายที่อาจเกี่ยวข้องกับนางบัวลอย เพราะเจ้าตัวได้รับผลประโยชน์จากการเสียชีวิตทุกครั้ง 

ล่าสุดวันนี้(10 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้พบกับนายชัชวาลย์ ขันยา อายุ 52 ปี หลายเขยของนายอุทิศ กลั่นกล้า ซึ่งเสียชีวิตตายไปเมื่อประมาณ 2 เดือนก่อน ละคาดว่าเป็น 1 ในเหยื่อของนางบัวลอย เปิดเผยว่า นายอุทิศได้เสียชีวิตอยู่บนที่นอน ข้างกระท่อมริมน้ำปิงที่พักและก่อนตายได้มาบ่นกับตนว่าปวดท้อง

ตอนแรกทางญาติพี่น้องไม่ได้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต เพราะว่ามีลักษณะนิสัยชอบดื่มสุราเป็นประจำจึงคาดว่าน่าจะเกิดจากพิษสุราเรื้อรัง แต่เมื่อนางบัวลอยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมและมีความเกี่ยวเนื่องเพื่อรับเงินฌาปนกิจสงเคราะห์จึงอดคิดไม่ได้ว่านายอุทิศเป็นเหยื่อของนางบัวลอยเช่นกัน เพราะตัวนายอุทิศได้เข้าฌาปนกิจสงเคราะห์กว่า 4 แห่งโดยมีนางบัวลอยเป็นผู้รับผลประโยชน์รวมเป็นเงินมานับแสนบาท แต่นางบัวลอยได้นำมาช่วยงานศพเพียง 15,000 บาทเท่านั้น

นายชัชวาลย์ เปิดเผยด้วยว่า เหยื่อที่ถูกนางบัวลอยเอาชื่อไปเข้าฌาปนกิจสงเคราะห์มักเป็นคนที่ติดสุรา เมื่อนางบัวลอยโดนจับจึงได้สังเกตว่าลักษณะการตายของเหยื่อคล้าย ๆ กัน จึงสงสัยว่าเป็นการวางยา

อย่างไรก็ตามทางพล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้เปิดเผยว่าขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังอยู่ในระหว่างขยายผล โดยจะได้มีการทำหนังสือถึงฝ่ายปกครองท้องถิ่นและนายอำเภอแม่ริมให้ทำเรื่องตรวจสอบการรับเงินฌาปนกิจของนางบัวลอย หากใครมีญาติพี่น้องที่เสียชีวิตแล้วเคยเข้าฌาปนกิจสงเคราะห์กับนางบัวลอย และสงสัยว่าจะเป็นการฆาตกรรมก็ให้มาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อใช้ที่ตำรวจจะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป