ชาวบ้านในพื้นที่ ม.5 ต.พ่วงพรมคร อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี เริ่มขนของขึ้นที่สูง หลังมวลน้ำในแม่น้ำตาปี ที่ไหลมาจากอำเภอพระแสง เพิ่มระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ชาวบ้านในบริเวณดังกล่าวประมาณ 10-20 ครัวเรือน ต้องเตรียมความพร้อมของตัวเอง ในการรักษาทรัพย์สินไม่ให้ถูกน้ำท่วม บางรายถึงกับต้องเช่าบ้านด้านนอกเพื่อเก็บทรัพย์สินเป็นการชั่วคาว

โดยนายธนากร วรรณฤทธิ์ อายุ41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/3 ม5 ต.พ่วงพรหมคร อ.เคียนซา บอกว่าน้ำเริ่มเข้าพื้นที่มาตั้งแต่วันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่เพิ่มระดับไม่เร็วเหมือนที่ท่วมหลังสุดตอนปี 60 รอบนี้มวลน้ำขยับตัวขึ้นเรื่อยๆ ทำให้สามารถขนของหนีน้ำได้เรื่อยๆ ประกอบกับฝนทิ้งช่วงให้ทำให้ไม่น่ากังวลเท่าไร แต่ก็เตรียมความพร้อม เพื่อความไม่ประมาท

ถือเป็นอีกหนึ่งในหลายจุดของ อ.เคียนซา อ.บ้านนาสาร อ.เวียงสระ ที่ต้องรองรับน้ำจากอำเภอพระแรงอีกระยะ ทำให้พื้นที่ลุ่มทำการเกษตรถูกน้ำท่วมขังแล้ว แต่ยังไม่กระทบการสัญจรและบ้านเรือนประชาชนมากนัก ซึ่งชาวบ้านยังต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป

ขณะที่ในอำเภอพระแสง ระดับน้ำยังท่วมสูงในหลายจุดเพราะน้ำในคลองอิปันระบายสู่แม่น้ำตาปีได้ช้า เพราะน้ำตาปีอยู่ในระดับวิกฤติ ในหลายพื้นที่นำท่วมมานานกว่า 5 วันแล้ว ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ยังคงเดินหน้าเข้าให้การบรรเทาทุกข์ โดยเฉพาะยารักษาโรคเกี่ยวกับน้ำ และยาสามัญ ที่มีความจำเป็นต้องนำไปแจกจ่ายให้ผู้ประสบอุทกภัย

สำหรับภาพรวมปัจจุบัน อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี อำเภอพระแสง ลดลงเหลือ จำนวน 3 ตำบล 9 หมู่บ้าน ราษฎร ได้รับผลกระทบ 217 ครัวเรือน 800 คน พื้นที่ได้ผลกระทบ ประกอบด้วยตำบลสาคู หมู่ที่ 1,2 น้ำท่วมถนนในหมู่บ้าน 2 สาย ระดับน้ำสูงประมาณ 0.50 เมตร ตำบลอิปัน จำนวน 5 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ 2,5,7,8,10 น้ำท่วมถนนในหมู่บ้าน 1 สาย ระดับน้ำสูงประมาณ 80 เมตร ราษฎรได้ผลกระทบ 182 ครัวเรือน 695 คน ตำบลสินปุน จำนวน 2 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ 3,5 น้ำท่วมถนน 2 สาย ระดับน้ำสูง ประมาณ 0.30 เมตร ราษฎรได้รับผลกระทบ 17 ครัวเรือน 51 คน

ที่มา amarintv