นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนโรคหญิงชาวฝรั่งเศส ติดเชื้อ COVID-19 ภายหลังเดินทางมาถึงประเทศไทย และผ่านการกักกันโรคระยะเวลา 14 วันแล้ว และวินิจฉัยพบเชื้อเมื่อ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัด ทำการสอบสวนโรคอย่างละเอียดและโปร่งใส เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน

โดยทีมสอบสวนโรค ได้ติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายนี้ ประกอบด้วยสมาชิกครอบครัวที่ร่วมเดินทางมาด้วย 2 คน และเพื่อนต่างชาติที่ขับรถไปรับที่สนามบินอีก 1 คน ซึ่งทั้ง 3 คน ไม่มีอาการทางเดินหายใจ ผลการตรวจโควิดไม่พบเชื้อ ส่วนผู้โดยสารและลูกเรือบนเที่ยวบินเดียวกันรวม 12 คน พบผู้โดยสาร 1 คนมีอาการทางเดินหายใจ และได้เก็บตัวอย่างส่งตรวจ ผลไม่พบเชื้อส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการเฝ้าระวังอาการและรอตรวจหาเชื้อ

ผลการตรวจเลือดของผู้ป่วยไม่พบภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ COVID-19 แต่พบสารพันธุกรรมจำนวนมาก สอดคล้องกับลักษณะการติดเชื้อเฉียบพลันของโรค ส่วนการถอดรหัสพันธุกรรมอยู่ระหว่างดำเนินการ จากข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่าน่าจะเป็นการติดเชื้อภายในประเทศ"

พบเชื้อ COVID-19 บนพื้นผิวอุปกรณ์ห้องฟิตเนส

สำหรับการสอบสวนในสถานที่กักกันโรค จ.สมุทรปราการ ที่ผู้ป่วยเข้าพักระหว่าง วันที่ 30 ก.ย. ถึง 15 ต.ค.นี้ พบผู้ปฏิบัติงานจำนวน 68 คน เก็บตัวอย่างส่งตรวจแล้ว 67 คน ผลไม่พบเชื้อ รวมทั้งผลตรวจเลือด ก็ไม่พบภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ COVID-19 ส่วนการเก็บตัวอย่างจากสิ่งแวดล้อม จำนวน 7 ตัวอย่าง พบเชื้อ COVID-19 ที่พื้นผิวอุปกรณ์ออกกำลังกายภายในห้องฟิตเนส จำนวน 1 ตัวอย่าง จึงมีความเสี่ยงจากการที่ผู้ถูกกักกันไม่ครบ 14 วันออกมาแพร่เชื้อในห้องฟิตเนส และพื้นที่ส่วนกลางบางจุด

ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค ร่วมกับหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ ดำเนินการสอบสวนและควบคุมโรคตามมาตรฐานสูงสุด และเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ต่อเนื่องจนครบ 14 วัน รวมทั้งจะได้ประสานกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ คุมเข้มมาตรฐานของโรงแรมที่เข้าร่วมเป็นสถานที่กักตัวที่รัฐกำหนด (Alternative State Quarantine) อย่างเคร่งครัด ไม่ให้เป็นจุดเสี่ยงเกิดการแพร่กระจายเชื้อ