ใครได้ฟังต้องมีน้ำตา เปิดใจน้องน้ำตาล ชีวิตอาพับตั้งแต่เกิด ต้องทนโดนเพื่อนล้อปมด้อยทุกวัน

ใครได้ฟังต้องมีน้ำตา เปิดใจน้องน้ำตาล ชีวิตอาพับตั้งแต่เกิด ต้องทนโดนเพื่อนล้อปมด้อยทุกวัน

จากกรณีที่เด็กหญิงคนหนึ่ง ถูกเพื่อนที่โรงเรียนบลูลี่ เนื่องจากทางบ้านมีอาชีพเป็นกรรมกร โดยทางผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Poramet Misomphop ซึ่งเป็นพลเมืองดี ได้โพสต์ถึงความรู้สึกของเด็กสาวคนนี้เอาไว้ระบุว่า

หนูไม่อายคะพี่ ถ้าสิ่งที่หนูทำ แรงที่หนูมี มันทำให้แม่หนู แบ่งเบาเหงื่อ ของแม่ได้ หนูทำได้ คะ

ครั้งหนึ่งเมศเคยลงพื้นที่มาที่โรงเรียนแห่งนี้ และครั้งนี้เมศได้ลงพื้นที่เพื่อถ่ายทำรายการ ตนจริงใจไม่ท้อ และ ระหว่างที่เมศยืนอยู่หน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กาญจบุรี อยู่ๆมีเด็กสาวมายืนอยู่ข้างหลัง แล้วพูดว่า พี่เมศหรือเปล่าคะ หนูดีใจมากเลย ที่พี่กลับมาอีกครั้ง หนูอยากขอความช่วยเหลือจากพี่หน่อย เมศจึงหันไปตามเสียงที่ได้ยินจึงสอบถามรายละเอียด น้องเล่าเมศฟังว่า น้องเห็นผมตั้งแต่เช้าที่หน้าเสาธง และ จำได้ว่าเป็นเมศ น้องเฝ้ารอพบเมศตั้งแต่เช้า เพื่ออยากเจอหน้าเมศ พอดีตอนเย็นหลังเลิกเรียน น้องเห็นเมศยืนอยู่ที่หน้าโรงเรียน เลยดีใจ วิ่งมาขอความช่วยเหลือจากผม

หากย้อนกลับไปในอดีต น้ำตาล เด็กสาว วัยเพียง 10 ขวบ เกือบจะไม่มีชีวิต ลืมตามาดูโลกใบนี้ เนื่องจากผู้เป็นแม่แท้ๆพอรู้ว่าตั้งท้อง ก็พยายามทำแท้ง หลายครั้ง แต่มี คุณหนึ่ง ( แม่บุญธรรมปัจจุบัน ) ซึ่งมีศักดิ์เป็นป้าได้ร้องขอชีวิตเอาไว้ พอเด็กคนนี้คลอดออกมาเพียงไม่กี่วัน ผู้เป็นแม่ ก็ยกน้องน้ำตาล ลูกสาวในไส้ของตัวเอง ให้กับป้าหนึ่ง และตั้งแต่นั้นมา น้องน้ำตาล ก็ไม่เคยเห็นหน้าแม่ อีกเลยผู้ให้กำเนิด และ ไม่เคยรู้ว่าพ่อของเค้าคือใคร อีกเลย

ปัจจุบัน น้องน้ำตาล วัย 10 ขวบ พักอาศัยอยู่ในบ้านเช่ากับป้า หนึ่ง ( แม่บุญธรรม ) ที่น้องน้ำตาลเรียกว่า แม่ เพียง 2 คน และคงค้างค่าเช่าบ้านมากว่า 3 เดือน แล้ว โดยที่สามีป้าหนึ่ง ( ลุงแท้ๆของน้องน้ำตาล ) ได้เลิกลากับป้าหนึ่งไปแล้ว ป้าหนึ่ง มีอาชีพ กรรมกร รับจ้าง ก่อสร้าง ตามที่ต่างๆ จนสุดท้าย มาเช่าบ้าน เพื่อให้น้องได้เรียนอยู่ในโรงเรียนแห่งนี้

ทุกๆเช้า น้องน้ำตาลจะตื่น ตี 5.30 เพื่ออาบน้ำเตรียมตัวไปโรงเรียน จากที่สอบถาม ผู้อำนวยการโรงเรียน น้องน้ำตาลเป็นเด็กที่เรียนปานกลาง ขยัน พูดเก่ง กล้าแสดงออก นิสัยดี หลังเลิกเรียน น้องน้ำตาล จะอยู่โรงเรียนจนเย็น เพราะกลับไปต้องอยู่เพียงคนเดียว เนื่องจากคุณแม่ต้องออกไปทำงานก่อสร้าง พอถึงบ้านน้องน้ำตาลจะทำงานบ้านทุกอย่าง คอยหุงข้าว ซักผ้า และรอแม่กลับมา เสาร์ - อาทิตย์ หรือถ้าวันไหนไม่ได้ไปโรงเรียน น้องน้ำตาลจะออกไปช่วยคุณแม่ ทำงาน ตักปูน แบกทราย แบกหิน ช่วยแม่ทำงานในไซร์งานก่อสร้าง แบบนี้ตลอดเวลา..

ระหว่างที่เมศเดินคุยกับน้อง อยู่ๆได้ยินเสียงดังขึ้นว่า..ดำตับเป็ด มาแล้ว ๆ เมศเลยถามน้องว่า เพื่อนๆในโรงเรียนพูดแบบนี้ หนูไม่อายหรอ น้องน้ำตาล พูดมาว่า เพื่อนๆที่โรงเรียนชอบล้อว่า "..ดำตับเป็ด ไอ้ลูก กรรมกร " แต่หนูไม่อายคะพี่ หนูไม่โกรธ เค้า หนูตัวดำจริงๆ อีกอย่าง หนูก็ภูมิใจที่แม่หนูมีอาชีพ กรรมกร.. เมศจึงถามต่อไปว่า ทำไมหนูไม่ไปเที่ยวไหนกับเพื่อนๆบ้างล่ะ นี่คือคำพูดของเด็กวัยเพียง 10 ขวบพูดออกมา " หนูไม่อยากไปคะ หนูอยากช่วยแม่ หนูไม่อยากเห็นแม่เหนื่อย หนูไม่อายคะ ถ้าสิ่งที่หนูทำ แรงที่หนูมี ทำช่วยแบ่งเบาเหงื่อของแม่ได้ หนูทำได้คะ

เบื้องต้นเมศได้นำข้าวสาร อาหารแห้ง และเงินส่วนตัว จำนวนหนึ่ง มอบให้น้องเพื่อช่วยเหลือเบื้องต้น

ที่มา Poramet Misomphop

เรียบเรียงโดย siamtopic

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ