จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพชายคล้ายพระสงฆ์กำลังยืนคุยกับโยมริมถนน พร้อมข้อความว่า มันมาอีกแล้ว มันมากับความ(มัว)เมา แสร้งขอน้ำแต่จะเอาเงิน รบกวนหน่วยงานที่อาจจะเกี่ยวข้องด้วยครับ พิกัดล่าสุดที่เจอ ถนน 234 กม.ที่ 16-18 ตอนนี้ขึ้นรถหายไปละ คาดว่าคงวนอยู่แถวๆนี้ถึงบ่าย ผมวนไปจอดเป็นเพื่อน และคุยกับคนบนรถเก๋งดำแล้ว พฤติกรรมใช้ขวดน้ำโบก แล้วขอเงินค่านู่นค่านี่จริง แบงก์ 20 บาท หลายๆใบเห็นกับตาตัวเอง ฮ่าๆ

ต่อมาได้มีผู้ที่พบกับเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันได้เข้าแสดงความเห็นว่า เคยเจอค่ะแต่ไม่เคยจอด มาอีกแล้วหน้าเดิมๆ ระวังมิจฉาชีพครับพระจะไม่ทำแบบนี้” บางคนบอกว่าเคยเจอที่บริเวณสายเลี่ยงเมืองรวม 12 เส้นทาง ทั้งเขาค้อและภูทับเบิก โดยชายแต่งตัวคล้ายพระสงฆ์ได้เรียกให้จอดรถยนต์ เพื่อขอเงินและขอติดรถไปด้วย จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบว่าเป็นพระจริงหรือไม่

ผู้โพสต์ เผยว่า ขณะที่ตนปั่นจักรยานออกกำลังกายช่วงเช้าวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา บนถนนเลี่ยงสาย 234 บ้านป่าแดง ต.ป่าเลา ได้พบกลุ่มพระสงฆ์ จำนวน 5 รูป ยืนพูดคุยอยู่กับหญิงสาวซึ่งคาดว่าเป็นนักท่องเที่ยว ซึ่งตนเห็นเป็นประจำว่าพระได้โบกรถขอน้ำดื่มและขอเงิน ตนจึงเข้าไปยืนเป็นเพื่อนหญิงสาวคนดังกล่าว และได้สอบถามผู้หญิงคนดังกล่าวหลังจากพระไปแล้ว ทราบว่าเป็นนักท่องเที่ยวมาจากต่างจังหวัด พร้อมลูก 1 คนและญาติสูงอายุอีก 1 คน พระสงฆ์ได้โบกให้จอดเพื่อขอน้ำดื่มและขอเงิน โดยอ้างว่าจะเอาไปเป็นค่าจีวรเพราะโดนหนามเกี่ยวและเพื่อไว้ซื้อกลดที่ชำรุด อยากเตือนประชาชนที่ใช้ถนนสัญจรไปมา ว่าอย่าไปหลงเชื่อมิจฉาชีพกลุ่มนี้ ซึ่งพระธุดงค์จะไม่ทำพฤติกรรมเช่นนี้

ล่าสุดพระศรีพัชรโรดม เจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้สั่งการให้สำนักพุทธศาสนาร่วมกับพระวินยาธิการ (ตำรวจพระ) ให้ดำเนินการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หล่มเก่า และ สภ.เขาค้อ ไปว่าคณะสงฆ์จังหวัดเพชรบูรณ์ ไม่มีนโยบายในการให้พระออกธุดงค์และการเรี่ยไรเงินแต่อย่างใด แต่ถ้าหากพบเจอพระทำพฤติกรรมดังกล่าว ให้ทำการนิมนต์ไปยังวัดแคมป์สน ในเขตอำเภอเขาค้อ วัดศรีฐานปิยาราม ในเขตอำเภอหล่มเก่า และให้พระวินยาธิการทำการตรวจสอบว่าพระดังกล่าวอยู่สังกัดที่ใดและให้ทำการนิมนต์กลับภูมิลำเนา ส่วนในกรณีถ้าตรวจสอบแล้วไม่ใช่พระจริงก็จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการในขั้นตอนต่อไป

ที่มา one31