จากกรณี นายสมภาร สุรัญกุล อายุ 40 ปี หรือเสี่ยเต้ย อดีตสามีเจ๊อ๋อ 90 ล้าน ได้เสียชีวิตเนื่องจากติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างกะทันหัน โดยมีเพื่อนๆ เข้าไปโพสต์แสดงความความเสียใจในเฟซบุ๊กจำนวนมาก ขณะที่ชายเผยก่อนเสียชีวิต มีอาการขาบวม จึงรักษาแบบพื้นบ้านก็ไม่หาย ก่อนโคม่าย้ายถึง 2 โรงพยาบาล กระทั่งเสียชีวิต

ล่าสุดวันที่ 20 พ.ย.63 ที่บ้านเลขที่ 111 หมู่ 4 บ้านคำบอน ต.หนองแสง อ.หนองแสง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านของ เสี่ยเต้ย และญาติได้ตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่บ้านหลังนี้ โดยมีญาติพี่น้องมากางเต้นท์บริเวณหน้าบ้าน รวมทั้งชาวบ้านและเพื่อนๆ มาช่วยงานศพ ร่วมแสดงความเสียใจทยอยนำพวงหรีด มาตั้งไว้บริเวณข้างโลงศพ

ขณะที่ นายสนอง สุรัญกุล อายุ 50 ปี พี่ชายคนโตของเสี่ยเต้ย เปิดเผยว่า เสี่ยเต้ยเป็นน้องชายคนสุดท้อง จากพี่น้องทั้งหมด 5 คน เป็นชาย 2 หญิง 3 คน ก่อนที่น้องชายจะเสียชีวิต ป่วยเป็นไข้หวัด แต่รักษาหายแล้ว จากนั้นก็วิ่งออกกำลังกาย เนื่องจากน้องชายเป็นคนชอบออกกำลังกาย จนกระทั่งช่วงค่ำวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา น้องชายบอกว่าเหนื่อยอ่อนเพลีย และนอนไม่ค่อยหลับ และขาทั้งสองข้างเริ่มบวม และมีอาการปวด จึงนำยาหม่องมานวดขาทำให้แสบปวดร้อน จึงเอาขาไปแช่น้ำเย็น แล้วมีอาการหายใจไม่ออก

จากนั้นจึงโทรหาเพื่อนให้นำส่ง ร.พ.หนองแสง ก่อนไปใช้สิทธิประกันชีวิต แล้วนำส่งต่อที่ ร.พ.เอกอุดร จากนั้นในเวลา 03.00 น. วันที่ 20 พ.ย. ในขณะนั้นยังพูดหยอกล้อตนและนางพยาบาลว่า เดี๋ยวก็ตายแล้วล่ะ จนอาการน้องชายเริ่มหนัก จึงได้นำตัวมาส่ง ร.พ.ศูนย์อุดรธานี แล้วก็เสียชีวิตลงตอนเที่ยงคืนเมื่อคืนนี้ ซึ่งไม่คิดว่าเป็นคำพูดของน้องชายที่เป็นลางบอกเหตุไม่ดี

นายสนอง กล่าวต่อไปว่า ย้อนไปเมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตนฝันเห็นพ่อที่เสียชีวิตไปแล้ว อยากกินต้มเปรตปลาไหล ทั้งที่ไม่เคยฝันเห็นพ่อเลย ตั้งแต่ท่านจากไปหลายปี และส่วนตัวคิดว่าฝันเป็นลางร้ายบอกเหตุล่วงหน้า โดยแพทย์ระบุการเสียชีวิต ของน้องชายว่าติดเชื้อในกระแสเลือด ส่วนทรัพย์สินของน้องชาย เคยบอกให้ตนเป็นคนดูแลจัดการ ซึ่งขณะนี้ตนยังไม่ทราบว่าทรัพย์สินของน้องชายมีอะไรบ้างและจำนวนเท่าไร หลังจากฌาปนกิจศพน้องชายแล้ว ตนและญาติพี่น้องจึงจะตรวจสอบ และอยากให้อดีตน้องสะใภ้ มาจุดธูปอโหสิกรรมต่อกัน จะได้ไม่มีเวรกรรมต่อกันในชาติหน้า แต่ก็สุดแล้วแต่อดีตน้องสะใภ้

ขณะที่ น.ส.หัดตี โนริญญา อายุ 39 ปี เพื่อนสนิทของเสี่ยเต้ย เปิดเผยว่า เสี่ยเต้ยเคยพูดความทุกข์ในใจ หลังจากมีข่าวออกมาว่าเลิกกันกับเจ๊อ๋อ แล้วสุขภาพของเต้ยไม่ค่อยดี รวมทั้งห่วงลูกสาวบุญธรรมที่อยู่กับเจ๊อ๋อ เพราะมีความผูกพันธุ์กัน ทำให้นอนไม่ค่อยหลับ แต่ทำทีมีความสุข โดยไม่แสดงออกมาว่าตัวเองทุกข์ แต่เพื่อนทุกคนก็รู้ว่า เสี่ยเต้ยมีความทุกข์ใจอย่างมาก ตนและเพื่อนๆ ก็ให้กำลังใจมาตลอด ไม่คิดว่าเข้าจะด่วนจากไปอย่างกะทันหัน เพราะไม่มีวี่แววเลยว่าจะล้มป่วยถึงกับเสียชีวิต หากเสี่ยเต้ยยังมีชีวิตอยู่ อยากจะบอกว่า ให้หยุดทำ ให้พักผ่อนบ้าง อย่ามัวแต่แคร์ความรู้สึกคนอื่น ให้รักตัวเองมากๆ รวมทั้งให้เวลากับญาติพี่น้องด้วย ซึ่งปกติเขาก็ทำอยู่แล้ว แต่ก็อยากให้ทำมากกว่าเดิม

ต่อมาในเวลา 15.17 น. นางละมัย ปราบมาลัย อายุ 60 ปี พี่สาวของเจ๊อ๋อ และ นางหัส ปัญญาใส อายุ 86 ปี แม่ของเจ๊อ๋อ เปิดเผยว่า รู้สึกเสียใจของการจากไปของเต้ย และตกใจมาก หลังทราบข่าวทางไลน์ แต่ก็เห็นเจ๊อ๋อร้องไห้อยู่หน้าบ้านคนเดียว จากนั้นก็ไม่รู้ว่าเจ๊อ๋อ ไปอยู่ที่ไหน พวกตนรักเต้ยเหมือนน้องและลูกชาย เนื่องจากเขาเป็นคนนิสัยดี ดูแลกันมาตลอด และทุกวันก็ยังทำเหมือนเดิม ส่วนสาเหตุการเลิกกันไม่ขอพูดถึง เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของพวกเขา ในวันนี้ที่เดินทางมานั้นเพื่อมาจุดธูปขอเคารพศพ เพื่อขออโหสิกรรมต่อกันนั้นเอง