ตร.พูดแล้ว สาเหตุที่ยึดรถ จยย.นักเรียน

ตร.พูดแล้ว สาเหตุที่ยึดรถ จยย.นักเรียน

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นคุณครูที่โรงเรียนในจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มีการโพสต์โวยเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเป็นคลิปภาพใบสั่ง ของลูกศิษย์ของตน ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยึดรถ เนื่องจากในระหว่างที่กำลังขี่รถ จยย. มาโรงเรียน ได้โดนตำรวจเรียกตรวจ ซึ่งนักเรียนก็ไม่มีหมวก แถมรถ จยย. ก็ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน ทำให้ถูกยึดรถ และต้องนำเงินมาเสียค่าปรับเพื่อรับรถคืน แต่นักเรียนไม่มีเงิน คุณครูจึงได้ออกเงินค่าปรับให้ พร้อมกล่าวว่า ทำงานมีเงินเดือนค่อยเอามาคืนครู ส่วนสาเหตุที่คุณครูไม่พอใจ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยึดรถทำให้นักเรียนต้องเดิน แทนที่จะออกใบสั่งมาก่อน แล้วค่อยไปจ่ายค่าปรับทีหลัง

จ่ายค่าปรับแทน

ล่าสุด พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ม.ค. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ปฏิบัติหน้าที่อยู่ พบเห็นวัยรุ่น 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาบริเวณถนนหน้าวิทยาลัยเทคนิค โดยไม่สวมหมวกกันน็อกทั้งคู่ จึงได้เรียกตรวจ พร้อมขอดูใบอนุญาตขับขี่ และขอตรวจเอกสาร แต่ปรากฏว่าไม่มี จึงตรวจยึดรถไว้ เพื่อป้องกันเหตุลักขโมย ก่อนที่จะแจ้งให้นำเอกสารมายืนยันและชำระค่าปรับ

พล.ต.ต.สมนึก กล่าวอีกว่า เรื่องดังกล่าวตำรวจยืนยันว่า เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายจราจร ซึ่งการตรวจและจับนั้นก็เพื่อเป็นการกวดขันวินัยจราจรบังคับใช้ตามกฎหมาย และเพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่เองลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ไม่ได้มุ่งหวังหรือเจตนาที่จะจับปรับอย่างเดียว แต่เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน อีกทั้งยังเป็นการป้องกันเหตุลักขโมยรถจักรยานยนต์ ซึ่งหากผู้ขับขี่เคารพและทำตามกฎหมายจราจรแล้วก็จะมีความปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็คงไม่จับ

ด้าน ร.ต.อ.วุฒิชัย คงไมตรี รอง สว.จราจร สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นได้ปฏิบัติหน้าที่ในการกวดขันวินัยจราจร โดยผู้ขับขี่รายนี้ และคนซ้อน ไม่สวมหมวกกันน็อก ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนและไม่มีเอกสารใดๆ ยืนยัน เจ้าหน้าที่จึงต้องออกใบตรวจยึด เพื่อป้องกันการลักขโมย และออกใบสั่งเปรียบเทียบปรับ 300 บาท เนื่องจากกระทำผิดกฎจราจร และสุดท้ายมีคนนำเอกสารมายืนยัน พร้อมเสียค่าปรับ เจ้าหน้าที่ก็ได้มอบรถกลับคืน

ที่มา dailynews

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ