เปิดบ้านอดีตร่างทรง โต้กลับ คนแฉค่าครูหลักล้าน

เปิดบ้านอดีตร่างทรง โต้กลับ คนแฉค่าครูหลักล้าน

จากกรณี เพจเฟซบุ๊ก SSBN-Thailand ได้โพสต์เกี่ยวกับร่างทรงรายหนึ่ง ระบุว่าสามารถอัญเชิญองค์เทพต่าง ๆ มาประทับร่างได้ตามคำเรียกร้อง ไม่เว้นแม้แต่ "องค์เง็กเซียนฮ่องเต้" ซึ่งเป็นเทพเจ้าสูงสุดของจีนตามความเชื่อ

โดยการแต่งกายด้วยชุดสีทอง สวมสร้อยทองกำไลทอง สวมรองเท้าเชิงงอน นั่งเก้าอี้บัลลังก์ มีลักษณะแต่งตัวตามแบบต่าง ๆ หลายแบบแตกต่างกันออกไป แต่ละวันจะมีผู้คนหนุ่มสาววัยกลางคนไปจนถึงอายุ 90 ปี แห่มากราบไหว้ ขอพร ดูดวง เสริมบารมี เสริมฮวงจุ้ย มีค่าครูสูงถึงหลักล้านบาท

ที่บ้านของร่างทรงดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ในตัวเมืองกำแพงเพชร พบว่าปากทางเข้าบ้านนั้นเป็นที่โล่งกว้าง มีบ้านอีกหลังของครอบครัวอยู่ฝั่งตรงข้าม

ในบ้านของนายอาเดียว เมืองช้าง อายุ 41 ปี ร่างทรงที่ถูกพาดพิง เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ 6 ไร่ 2 งาน 15 ตร.ว. ตกแต่งสวนอย่างสวยงาม มีสระบัว มีรูปปั้นทองเหลืองสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย พบว่าการตกแต่งเป็นแนวจีนโบราณ มีพระพุทธรูปมากมาย

นายอาเดียว บอกว่า ตนซื้อมาจากร้านขายของเก่าที่สวนจตุจักร กรุงเทพฯ สระน้ำหลังบ้าน เลี้ยงหงส์ดำและหงส์ขาวไว้อย่างละ 2 ตัว รวมถึงห้องนอนก็ไม่ค่อยได้นอน เพราะไปดูแลธุรกิจร้านขายของ 20 บาทที่ต่างจังหวัด ส่วนข้อมูลที่เพจเฟวบุ๊กนำเสนอนั้นไม่ใช่เรื่องจริง ตนคาดว่าน่าจะมีคนไม่ชอบตนแล้วนำข้อมูลไปส่งให้เพจนำเสนอ แต่ตนนึกไม่ออกว่าเป็นใคร

ทั้งนี้ ตนยอมรับว่าตนเป็นร่างทรง ทรงเป็นอาม่า หญิงแก่ชาวจีน แต่ไม่ใช่อาม่าของตน ตนไม่เคยทรงเป็นคนอื่น ตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งตนทรงมาตั้งแต่เด็กเมื่อประมาณ 30 ปีก่อน แต่ขณะนี้ตนเลิกเป็นร่างทรงแล้วได้ 5-6 ปี เนื่องจากตนเริ่มเบื่อหน่าย และไม่อยากถูกกระแสโจมตี โดยรูปที่เพจนำไปโพสต์ว่าตนยังคงแต่งตัวแล้วเข้าทรงอยู่นั้น ขอชี้แจงว่า ปเ็นงานไหว้ครูประจำปีที่บ้าน ซึ่งจะมีแต่คนรู้จักมาร่วมงาน ตนยังคงแต่งตัวตามแบบที่ตนชอบ ในรูปแบบอลังการ เสื้อคลุมใหญ่ ๆ ซึ่งไม่มีเจตนาจะแต่งเลียนแบบใคร

ส่วนประเด็นเงินค่าครู ตนไม่เคยหลอกลวงหรือเรียกเก็บค่าครูกับใคร 1 ล้านบาท เพราะแค่ค่าครู 1 หมื่นคนยังคิดหนักเลย บ้านที่เห็นนี้ตั้งอยู่บนที่ดินบรรพบุรุษ ตนยังเคยทำธุรกิจจิวเวลรี่มาก่อน ทำให้มีเงินที่จะตกแต่งบ้านตามแบบที่ชอบ หารูปปั้นทองเหลืองมาตกแต่งสวน ส่วนรูปเงินจำนวนมากที่ทางเพจนำออกมาโพสต์ทำ เสีย ชื่อเสียงของตน ขอชี้แจงว่านั่นเป็นเงินของตนเองที่ตนได้จากลอตเตอรี่ และเป็นเงินที่คนฝากให้นำไปทำบุญ

ขณะนี้ตนเดือดร้อน เนื่องจากทางเพจได้นำเฟซบุ๊กของตนไปกระจายให้คนอื่นรู้ ทำให้มีคนทักมาหาเพื่อขอยืมเงินเป็นจำนวนมาก โดยตนได้เตรียมเข้าแจ้งความ และปรึกษากับทนายแล้วว่าจะฟ้องร้อง และจะไล่ฟ้องคนที่ต่อว่าตนต่อไป หากอนาคตตนได้รับผลกระทบต่อชื่อเสียงและส่งผลต่อธุรกิจ

ที่มา amarintv

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ